“สว.สมชาย” ย้ำชัดจุดยืน ลั่นไม่โหวตแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย หากแก้รธน.ทั้งฉบับ

“สมชาย แสวงการ” ลั่น ไม่โหวตเพื่อไทยนั่งเก้าอี้นายกฯ หากร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับ จี้พรรคร่วมรัฐบาลกำหนดกรอบแก้ไขให้ชัดเจนว่าแก้ไขเรื่องใดบ้าง

วันที่ 15 ส.ค.66 ที่อาคารรัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Top news ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายตั้งสสร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า ตนยืนยันว่ารัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ หากใช้ไประยะหนึ่ง สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ซึ่งเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 แก้ไขโดย สส. และสว. รวมทั้งประชาชนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากเรื่องใดกระทบโครงสร้าง รวมถึงองค์กรอิสระ ในเรื่องอำนาจ หน้าที่ ต้องถามประชามติ ส่วนขั้นตอนการแก้รัฐธรรมนูญมี 3 ประเภท 1.แก้ไขโดยทำประชามติ 2.แก้ไขโดยสภาไม่ต้องผ่านการทำประชามติ และ 3.แก้ไม่ได้ ซึ่งเป็นหลักถาวรของรัฐธรรมนูญฉบับ 60 อย่าง หมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งถูกล็อคด้วยรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 และเขียนในเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรหนึ่งเดียวแบ่งแยกมิได้ และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ในฐานะเคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสมชาย กล่าวว่า หากร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ หมายความว่าต้องนำฉบับเก่าทิ้งไป สิ่งที่หายไปจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมไม่มีหลักประกันว่าอะไรจะเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นหมวด 1 หมวด 2 การร่างรัฐธรรมนูญในประเทศไทย ปี 2540 , 2550 และ ปี 2560 มาจากวิกฤตความขัดแย้ง การร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากสสร. ในปี 2540 ที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งนั้น ที่จริงแล้วไม่ใช่ และไม่เคยมี สสร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่เป็นสสร. ที่มาจากการเลือกกันในแต่ละจังหวัด ๆ ละ 2 คน และส่งมายังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาเลือกเหลือจังหวัดละ 1 คน ถามว่าหากร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ อะไรคือกรอบ และร่างโดยใคร หากระบุว่าร่างโดยสสร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ซึ่งตอบได้เลยว่าสสร.จะมาตามฐานคะแนนเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะเป็นผู้ช่วยหาเสียง หัวคะแนนในพื้นที่ หรือเป็นสส.สอบตกของแต่ละพรรค

 

“สสร.มาจากใครก็ได้อาจจะเป็นหนึ่งในสิบล้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ ปี 60 หรือเป็นบุคคลหนึ่งที่คิดล้มสถาบัน โดยมีไอเดียออกมาหลายครั้งจากแกนนำคณะก้าวหน้า อย่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ตั้งแต่ 10 สิงหาคม 2564 ที่เสนอเข้าสู่สภา จะให้คนเหล่านี้เป็นคนร่างรัฐธรรมนูญหรือ มีทัศนคติ อคติต่อสถาบัน นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่พูดถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เคยระบุว่าจะลดสถานะ ลดพระราชอำนาจ บุคคลเหล่านี้ต้องการยกเลิกองคมนตรี และยกเลิกกฎมณเฑียรบาล การสืบสันตติวงศ์ ให้หน่วยงานของสำนักงานที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ทั้งหมด ของบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ม.112 เป็นเรื่องเล็ก เขาสามารถตัดมาตรา 6 ออกไปได้ทันที ซึ่งมาตรา 6 ระบุว่าพระมหากษัตริย์ทรงอยู่ไหนสถานะเคารพสักการะผู้ใดไปล่วงละเมิดมิได้และผู้ใดจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ไม่ได้” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า หากร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ หมายความว่าต้องนำฉบับเก่าทิ้งไป สิ่งที่หายไปจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมไม่มีหลักประกันว่าอะไรจะเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นหมวด 1 หมวด 2 การร่างรัฐธรรมนูญในประเทศไทย ปี 2540 , 2550 และ ปี 2560 มาจากวิกฤตความขัดแย้ง การร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากสสร. ในปี 2540 ที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งนั้น ที่จริงแล้วไม่ใช่ และไม่เคยมี สสร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่เป็นสสร. ที่มาจากการเลือกกันในแต่ละจังหวัด ๆ ละ 2 คน และส่งมายังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาเลือกเหลือจังหวัดละ 1 คน ถามว่าหากร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ อะไรคือกรอบ และร่างโดยใคร หากระบุว่าร่างโดยสสร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ซึ่งตอบได้เลยว่าสสร.จะมาตามฐานคะแนนเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะเป็นผู้ช่วยหาเสียง หัวคะแนนในพื้นที่ หรือเป็นสส.สอบตกของแต่ละพรรค

 

 

 

“สสร.มาจากใครก็ได้อาจจะเป็นหนึ่งในสิบล้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ ปี 60 หรือเป็นบุคคลหนึ่งที่คิดล้มสถาบัน โดยมีไอเดียออกมาหลายครั้งจากแกนนำคณะก้าวหน้า อย่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ตั้งแต่ 10 สิงหาคม 2564 ที่เสนอเข้าสู่สภา จะให้คนเหล่านี้เป็นคนร่างรัฐธรรมนูญหรือ มีทัศนคติ อคติต่อสถาบัน นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่พูดถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เคยระบุว่าจะลดสถานะ ลดพระราชอำนาจ บุคคลเหล่านี้ต้องการยกเลิกองคมนตรี และยกเลิกกฎมณเฑียรบาล การสืบสันตติวงศ์ ให้หน่วยงานของสำนักงานที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ทั้งหมด ของบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ม.112 เป็นเรื่องเล็ก เขาสามารถตัดมาตรา 6 ออกไปได้ทันที ซึ่งมาตรา 6 ระบุว่าพระมหากษัตริย์ทรงอยู่ไหนสถานะเคารพสักการะผู้ใดไปล่วงละเมิดมิได้และผู้ใดจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ไม่ได้” นายสมชาย กล่าว

 

 

 

ต่อข้อถามที่ว่าทางสว.มีข้อห่วงใยอย่างไรบ้าง หากมีการแก้หมวด 1 หมวด 2 นายสมชาย กล่าวว่า เขาไม่ได้บอกว่าจะไปแก้หมวด 1 หมวด 2 แต่เขาจะไปร่างใหม่หมดทุกมาตรา ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงจากประชาชนเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ก็มาจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปรียบเสมือนลูกฆ่าแม่ คุณไม่สนใจประชามติ 16 ล้าน 8 แสนเสียง คุณต้องการล้มใหม่ทั้งหมดและอาศัยประชามติที่คุณมีเสียงข้างมากในสภาและมีเสียงข้างมากในการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพียงเพราะหมวด 1 และหมวด 2 ทุกหมวดทุกมาตรา สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือความไม่มีเสถียรภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์

 

 

 

ต่อข้อถามที่ว่า หากแก้รัฐธรรมนูญจะกระทบมาตรา 144 เปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าไปมีบทบาทการโยกย้ายงบอาจจะสั่งให้ข้าราชการหาผลประโยชน์จากงบตรงนี้ได้ ทางสว.เป็นห่วงหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญตั้งแต่ 2541 เป็นต้นมาจนถึงรัฐธรรมนูญปี 50 กำหนดให้สส.สามารถแปรญัตตินำงบเข้าจังหวัดตนเองได้ สังเกตได้จากศาลาริมทางมีชื่อสส. บุคคลนั้นเขียนไว้ มันก็คือการหาเสียง เส้นทางรถไฟแทนที่จะถูกสร้างทั้งประเทศถูกเปลี่ยนไปเป็นถนน เป็นสนามบิน ซึ่งเป็นการนำผลประโยชน์เฉลี่ยทั้งประเทศไปใช้ในพื้นที่ของตนเอง โดยสส.และสว. งบประมาณควรถูกกระจายไปตามความจำเป็นและความต้องการของแต่ละพื้นที่ ซึ่งสส. มีหน้าที่สะท้อนให้รัฐบาลรู้ว่าเขาเดือดร้อน อยากได้สวัสดิการที่ดีขึ้น รัฐบาลก็ต้องไปจัดสรรงบประมาณ บางคนแปรญัตตินำงบประมาณไปไว้ในจังหวัดของตัวเอง ขณะที่จังหวัดข้างเคียงยากจน จนมาเป็นที่มาเขียนรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ว่าห้ามสส. สว. และกรรมาธิการไปใช้อำนาจหน้าที่ในการแปรญัตติหรือย้ายงบประมาณกลายเป็นของตนเอง หรือของจังหวัดตนเอง ซึ่งรัฐธรรมนูญได้ไปห้ามไว้ตรงจุดนี้

 

นายสมชาย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้อีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญคือให้คดีทุจริตไม่มีอายุความ และสามารถดำเนินคดีได้ระหว่างผู้ต้องหาหลบหนี และพิพากษาคดีได้ ซึ่งจะเห็นชัดเจนว่านักโทษมีคดีทุจริตศาลสามารถตัดสินจำคุก เมื่อได้ตัวเมื่อไหร่ก็จับมาเข้าคุก แต่หากยกเลิกรัฐธรรมนูญยกเลิกและพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ความผิดที่ใช้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 98 เดิมในเรื่องของอายุความ 10 ปีจะกลับมาใช้เมื่อกลับมาใช้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหนีคดี ที่หนีไป 18 ปีก็ต้องหมดอายุความ นี่คือหลักที่ผู้คนไม่เข้าใจว่าล้มรัฐธรรมนูญและจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อล้มรัฐธรรมนูญเท่ากับเป็นการล้มพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญด้วย ถึงล้มคดีทุจริตไม่มีอายุความด้วย และคุณสมบัติทั้งหลายที่ผู้คนมองไม่เห็น ที่สำคัญล้มองค์กรอิสระด้วย

ต่อข้อถามที่ ว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลแล้วเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของสว.จะเป็นไปในทิศทางใด นายสมชาย กล่าวว่า ฝากถึงรัฐบาลข้ามขั้ว อาทิ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ว่า คุณจะยอมร่วมรัฐบาลโดยไม่บอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญมาตราไหน ที่สำคัญเขาไม่ได้ระบุว่าจะแก้ แต่จะร่างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ซึ่งข้อตกลงนี้ต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลไปหลอมรวมกันก่อน ว่าสรุปจะแก้ไขหรือล้มและร่างขึ้นมาทั้งหมด หากพวกคุณเห็นว่าจะล้มและร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ตนไม่โหวตให้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น