ขณะเดียวกัน วันนี้ (16 ส.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้เดินทางมาเพื่อยื่นฟ้องกลับ นายเศรษฐา ทวีสิน แดนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นายเศรษฐาและ นายวิญญัติ ได้มายื่นฟ้อง นายชูวิทย์ บิดเบือนข้อมูลซื้อขายที่ดินย่านสุขุมวิท มูลค่า 500 ล้านบาท
นายชูวิทย์ เปิดเผยก่อนขึ้นฟ้องศาล ว่า เมื่อวานที่ตนเองแถลงข่าวแฉการนิติกรรมอำพรางของ บ.แสนสิริฯ นั้น ตนเองได้ขุดหลุมพรางเอาไว้ เพื่อให้ บ.แสนสิริฯ ออกมาตอบโต้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตนเองวางแผนไว้ นั่นคือ บ.แสนสิริฯ ชี้แจงเพียงแค่ว่าการซื้อขายที่ดินในซอยทองหล่อ 12 มีความโปร่งใส แต่ไม่ได้บอกถึงวิธีการซื้อขายที่ชัดเจน รวมไปถึงวิธีการตั้งนอมินีขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่า บ.แสนสิริฯ คงไม่มีทางเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
ส่วนที่ตนเองมาในวันนี้ เพราะต้องการฟ้องกลับ นายเศรษฐา 3 ข้อหา คือ หมิ่นประมาทฯ ฟ้องเท็จ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตนเองเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 90,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ นายวิญัติ ทนายความ เดินทางมาฟ้องตนเองเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ตนเองไม่ได้ต้องการฟ้อง เพื่อทรัพย์สินเงินทอง แต่ต้องการฟ้องเพื่อความจริง ซึ่งประชาชนควรมีสิทธิ์ได้รับรู้ ว่า บ.แสนสิริฯ ภายใต้การบริหารของ นายเศรษฐา ว่าที่นายกรัฐมนตรี ถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่ง
นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยถึงการทำนิติกรรมอำพรางการซื้อขายที่ดินซอยทองหล่อ 12 เพิ่มเติมอีกว่า บ.แสนสิริฯ ได้ตั้งบริษัทนอมินีขึ้นมาบริษัทหนึ่ง ไปเอา รปภ.กับแม่บ้านมาเป็นกรรมการบริษัท เพื่อที่จะนำบริษัทดังกล่าวไปซื้อหุ้นบริษัทอีกบริษัทหนึ่ง จากนั้นค่อยไปซื้อที่ดินผืนดังกล่าว มีการซื้อที่ดินในราคาสูงกว่าความเป็นจริงถึง 1,000 ล้านบาท เพื่อเอาเงินทอน และวิธีการทำธุรกรรมยังผิดแปลก ซึ่งตามปกติการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะต้องทำสัญญาซื้อขายก่อน แล้วค่อยทำสัญญาจำนอง แต่ บ.แสนสิริฯ กับทำสัญญาจำนองโฉนดไว้ล่วงหน้า ส่วนที่ดินผืนดังกล่าวเจ้าของปัจจุบันเป็นของ นายแพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ส่วน รปภ.ที่ชื่อนายสมศักดิ์กับแม่บ้านที่ชื่อนายพินิช เป็นกรรมการบริษัทนอมินี ก็ไปแจ้งความเพื่อยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องให้เจ้าตัวออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร อยากบอกทั้ง 2 คน ว่า ถ้าไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องก็มาให้การในฐานะพยาน หรือ ถ้าอยากปกปิดก็แล้วแต่ ส่วนตนเองเชื่อว่า ทั้ง รปภ. และแม่บ้าน คงจะได้ค่าจ้างจากการเป็นนอมินีไม่เท่าไหร่พร้อมยืนยันจากนี้ขอแลกกันหมัดต่อหมัด สู้กันในชั้นศาล ตนเองมีหลักฐานครบ
ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ เตรียมนำหลักฐานไปร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วันพรุ่งนี้ (17 ส.ค. 66) เวลา 10.00 น. เพื่อตรวจสอบและใช้อำนาจตามกฎหมายเรียกนอมินีของนายเศรษฐามาสอบสวน ซึ่งถ้าหากพบว่าผิดจริงอาจรุนแรงถึงถูกยึดทรัพย์ โดยตนเองได้เตรียมแจ้งข้อหาหลายข้อหาต่อนายเศรษฐาทั้งฉ้อโกงประชาชน และข้อหาอื่นๆ เรียกได้ว่าบริษัทแสนสิริภายใต้การบริหารของนายเศรษฐามีพฤติกรรมเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
ขณะที่กรณีของ นายวิญญัติ ทนายความผู้รับอำนาจ นายเศรษฐา ที่มาฟ้องตนเองนั้น ก็จะยื่นสอบมารยาททนายความด้วยเช่นกัน โดยหลังจากยื่นฟ้องศาลตนเองจะเดินทางไปสภาทนายความเพื่อขอให้นายกสภาทนายความสอบมารยาททางจริยธรรมต่อนายวิญญัติ ซึ่งตนเองมองว่านายวิญญัติเล่นการเมืองมากเกินไป จนลืมมารยาททนายความไปแล้ว
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ใช่แค่การตรวจสอบ การซื้อขายที่ดิน ย่านสารสิน ทองหล่อ เพียงเท่านั้น ที่จะแฉต่อไปคือโซนสุขุมวิท เพราะตนเองมีหลักฐานว่า มีการเอาบริษัทต่างชาติมาเป็นนอมินี เพื่อซื้อที่ดิน ภายในซอยสุขุมวิท 12 และก็ยังมีย่านอ่อนนุชอีกที่ที่ตนเองเตรียมจะแฉต่อไป
Media Paper Fair
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 7 Aug – 31 Aug 2023
⚡ ช้อปกระดาษถ่ายเอกสาร A4 ขนาด 70,80 one Green คุ้ม 2 ต่อ
🚩 คุ้มแรก ราคาเริ่มต้น 520.-*
🚩 คุ้มที่ 2 รับฟรี กระดาษถ่ายเอกสาร one Green 1 รีม ช้อปเลย
👍 ดีลดี ดีลโดน แบบนี้ ห้ามพลาด
คลิกเพื่อช้อปได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/FI2co