ดร.อิสราพร นรินทร์ หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ดร.อิสราพร นรินทร์” โดยระบุว่า #นักโทษคดีทุจริต #ไม่ใช่วีรบุรุษ
ดูเหมือนคนในสังคมกำลังได้รับค่านิยมที่แปลกประหลาด เรื่องผิดกลายเป็นเรื่องถูก กลายเป็นเรื่องผิดเพี้ยนบิดเบือนไปหมด คนขาดซึ่งศีลธรรมและไม่เคารพซึ่งกันและกัน หมายรวมถึงกฎหมายบ้านเมืองเรายังคงมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่?
เมื่อย้อนดูที่ผ่านมา นายทักษิณ มีคดีที่ถูกพิพากษาไปแล้วนั้น 4 คดี มีโทษจำคุกรวม 12 ปี เมื่อกลับเข้าประเทศไทย จะมีโทษถูกจำคุกทันที แต่เนื่องจากในปัจจุบัน 1 ใน 4 คดีหมดอายุความแล้วนั้น
ทำให้เหลือเพียงแค่ 3 คดี และโทษจำคุกเหลือ 10 ปี โดย 3 คดี ประกอบด้วย
1. คดีทุจริตปล่อยกู้ EXIM Bank ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก 3 ปี
2. คดีหวยบนดิน ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก 2 ปี
3. คดีแก้ไขสัมปทานเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ปฯ ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก 5 ปี
ตามหลักกฎหมายตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ที่แก้ไขใหม่ไปเรียบร้อยแล้วนั้น โดยการนับโทษประมวลกฎหมายอาญามาตรา 22 ตั้งแต่ระยะเวลาลงโทษจำคุก คือ โทษจำคุก ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หัก วันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษาเว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น
ขณะที่การรับโทษจำคุก มาตรา 22 ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักจำนวนวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น
กรณีที่คำพิพากษากล่าวไว้เป็นอย่างอื่น โทษจำคุกตามคำพิพากษาเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาในคดีเรื่องนั้นเข้าด้วยแล้วต้องไม่เกินอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำลงนั้น ทั้งนี้ไม่เป็นการกระทบกระเทือนบทบัญญัติในมาตรา 91″