กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟสบุ๊กยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ซึ่งเป็นแนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์ข้อความเรื่อง “VAT คือภาษีที่สร้างความเหลื่อมล้ำ” โดยระบุรายละเอียดตอนหนึ่งว่า การที่ไม่นานมานี้สภาพัฒน์เสนอขึ้นภาษี VAT จาก 7% เป็น 10% นั้น โดยอ้างว่าต้องการเก็บเพื่อนำมาจัดสรรสวัสดิการให้คนสูงวัยในอนาคต คือการพยายามขูดรีดคนรากหญ้า แทนที่จะเป็นการลดงบกองทัพ หรืองบที่ไม่ได้มีความจำเป็นแก่การพัฒนาประเทศเพื่อนำมาสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าให้กับคนทุกวัย พร้อมให้ข้อมูลอีกว่า สาเหตุที่ VAT ถูกวิจารณ์ว่าเป็นภาษีที่ไม่เป็นธรรม เพราะ “ผู้ที่มีรายได้ต่ำจะต้องจ่ายภาษีในอัตราสูงเท่ากับผู้ที่มีรายได้สูง” ทำให้หากมีการขึ้นภาษี VAT ไปมากกว่าเดิม จะทำให้ผู้ที่มีรายได้ต่ำได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ เราจึงสามารถเรียกได้ว่า VAT คือ “ภาษีแห่งความเหลื่อมล้ำ” ส่วน “ภาษีขั้นบันได” ถือเป็นคำตอบให้กับการแก้ไขความเหลื่อมล้ำที่ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนเพิ่มมากขึ้นทุกทีในสังคมไทย
ซึ่งโพสต์ดังกล่าว ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ต่างแสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมกับให้ข้อมูลอีกด้าน เช่น นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตทีมโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า “ประเทศที่พวกคุณไปชื่นชมเขาซะเหลือเกินในยุโรป VAT เฉลี่ยอยู่ที่ 22% นะครับ โดยเฉพาะสแกนดินิเวีย ที่ชอบบอกว่าเป็นกลุ่มประเทศในฝัน หากวันๆจะโวยวายไม่อยากจ่ายภาษีสูงขึ้น (10% นี่ก็โคตรต่ำละ) แต่อยากมีคุณภาพชีวิตดี ใครจะเสกสิ่งนี้ให้ได้บ้าง มีแต่พวกขี้แพ้นะ ที่คิดแต่จะได้แบบนี้”
นอกจากนี้ยังมีความเห็นของผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Katanyoo Tungmepol ที่ได้แชร์ข้อความว่า คนกลุ่มหนึ่งเรียกร้องอยากได้รัฐสวัสดิการแบบประเทศในกลุ่มสแกนดินิเวีย เลี้ยงดูกันไปตั้งแต่เกิดจนตาย โดยอ้างว่า ตัวเองจ่าย VAT เยอะแล้ว พอมีแนวคิดจะขึ้น VAT เป็น 10% ซึ่งเป็นอัตราปกติ ที่เราจ่าย 7% นี่เป็นอัตราลดมาเนิ่นนาน ก็โวยวายว่า VAT เป็นภาษีแห่งความเหลื่อมล้ำ ควรจัดเก็บภาษีแบบขั้นบันได
ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า
1.Income Tax เก็บเป็นขั้นบันไดอยู่แล้ว แต่มีคนจ่ายแค่ 4 ล้านคน ต้องแบกรับภาระคนทั้งประเทศ
2.VAT ที่ไหนก็เก็บเป็น flat rate แล้วมันก็ยุติธรรม เพราะคนรวยที่ซื้อของเยอะ ก็ต้องจ่าย VAT เยอะ ธุรกิจที่ขายของได้เยอะ ก็ต้องนำส่ง VAT เยอะ
3.ถ้าอยากได้รัฐสวัสดิการแบบสแกนดินิเวีย ก็ช่วยดูด้วยว่า เค้าจ่าย VAT กัน 25% ไหวไหมล่ะ นี่ยังไม่นับ Income Tax ที่เค้าจ่ายอัตราสูงสุดเกิน 50% แถมยังมีฐานภาษีที่กว้างมากด้วย
4.หลายคนไม่ยอมศึกษาระบบประกันสังคมของไทย ซึ่งออกแบบมาดูแลแรงงานในระบบตั้งแต่เกิดจนตาย โดยใช้หลักคิด co-pay ร่วมกันจ่าย 3 ฝ่าย : รัฐบาล นายจ้าง ลูกจ้าง เมื่อคน 10+ ล้านคนอยู่ในระบบนี้แล้ว รัฐจึงมีภาระดูแลเฉพาะคนที่ไม่มีสวัสดิการใดๆ ซึ่งรัฐต้องจ่ายฝ่ายเดียว
5.ประเทศที่ล้มละลายเพราะให้สวัสดิการมากไปก็มี แม้แต่สวีเดนเองก็ต้องทยอยลดสวัสดิการลงเพราะรัฐแบกภาระไม่ไหว
การที่อินฟลูเอนเซอร์ นำเสนอข้อมูลบิดเบือน ก็ไม่ต่างอะไรกับ Propaganda ที่หวังผลทางการเมือง แล้วเราก็จะอยู่กันในโลกที่ถกเถียงกันด้วยข้อมูลผิดๆ แบบนี้ไปอีกนาน