นายเควิน แม็กคาร์ธี ประธานสภาแห่งสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวฟ็อกนิวส์ของสหรัฐว่า ตนพร้อมที่จะดำเนินการฟ้องร้องต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อไป เนื่องจากในแต่ละสัปดาห์ หลักฐานของการกล่าวหาว่า ไบเดนและครอบครัวมีการทุจริตนั้น มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากดูข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมได้จนถึงตอนนี้ ถือเป็นการเดินหน้าแบบปกติ ที่จะต้องเข้าสู่การไต่สวนฟ้องร้อง
แม็กคาร์ธีได้อ้างต่อ ถึงความก้าวหน้าในการสืบสวนการคอร์รัปชั่นของครอบครัวไบเดนในรัฐสภา โดยพรรครีพับลิกัน เช่นเรื่องบันทึกของธนาคารที่แสดงให้เห็นว่า ครอบครัวไบเดน ก่อตั้งบริษัทถึง 20 บริษัท ในขณะที่โจ ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ตั้งแต่ปี 2009 ถึงปี 2017, และครอบครัวไบเดนได้รับการชำระเงินจำนวน 16 รายการ จากโรมาเนีย โดยเงินตรงนี้ได้ถูกโอนเข้าไปยังสมาชิกในครอบครัวจำนวน 9 คน, นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการติดสินบนด้วย
แม็กคาร์ธีระบุต่อว่า เมื่อดูสิ่งเหล่านี้ ก็ดูเหมือนว่า วัฒนธรรมของการคอร์รัปชั่นกำลังเกิดขึ้นภายในครอบครัวไบเดนทั้งหมด ซึ่งประชาชนชาวอเมริกันสมควรได้รับคำตอบ และในส่วนคะแนนเสียงของพรรครีบพับลิกันจะมีเพียงพอที่จะกระตุ้นให้มีการดำเนินคดีฟ้องร้องหรือไม่นั้น ก็ต้องมีการหารือกับบรรดาส.ส. ซึ่งเราก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ประธานาธิบดีโกหกต่อชาวอเมริกันตลอดเวลา แต่ละขั้นตอนที่เราดำเนินการ ขัดแย้งกับสิ่งที่ไบเดน เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น และส่วนของพรรคเดโมแครตเอง ตนก็ได้ยินว่ามีความกังวลกันมาก เพราะพวกเขาสนับสนุนไบเดน ตามสิ่งที่ไบเดนบอก ดังนั้น เพื่อให้ได้รับคำตอบ จึงต้องมีการไต่สวนฟ้องร้อง เพื่อให้อำนาจสภาคองเกรส ได้รับคำตอบที่ชาวอเมริกันสมควรจะรู้
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่ฟ็อกนิวส์ จะสัมภาษณ์แม็กคาร์ธี 2 วัน ฟ็อกนิวส์ก็ได้สัมภาษณ์นายวิกเตอร์ โชกิน อดีตอัยการสูงสุดของยูเครน ซึ่งโชกินได้กล่าวว่า ช่วงที่โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของสหรัฐ ไบเดนก็ได้รับสินบนจากบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งของยูเครน เพื่อแลกกับการทำให้ตนโดนไล่ออกในปี 2016 โดยไบเดนได้ไปกดดันอดีตประธานาธิบดีปีเตอร์ โปโรเชนโก ของยูเครนในขณะนั้น ให้ไล่ตนออก เนื่องจากตนทำการสอบสวนเกี่ยวกับบูริสมา โฮลดิ้งส์ บริษัทพลังงานของยูเครน
โชกินระบุต่อว่า บูริสมานั้น มีฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของโจ ไบเดนดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการบริหารอยู่ ทั้งนี้ หากตนยังได้รับอนุญาตให้ดำเนินการสอบสวนบูริสมาต่อ ทั้งฮันเตอร์ ไบเดน, และเดวอน อาร์เชอร์ ซึ่งเป็นผู้บริหารชาวอเมริกันอีกคนของบริษัท อาจเผชิญกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นในบริษัท รวมถึงคนอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายลินด์ซีย์ เกรแฮม และนายชัค กราสลีย์ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้ทำการเผยแพร่เอกสารของ FBI ที่มีการอ้างถึงแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือสูงว่า แหล่งข่าวได้รับการบอกกล่าวจากเจ้าของบูริสมาว่า ทั้งโจ และฮันเตอร์ ได้รับเงินคนละ 5 ล้านเดอลล่าร์ เพื่อหาทางใช้อิทธิพลทางการเมืองกับยูเครน