“เดชอิศม์” ยืนกรานปัดแหกมติปชป.ลั่นจะเป็นฝ่ายค้าน 100% ไม่หวั่นถูกขับออก

"เดชอิศม์" ยืนกรานปัดแหกมติปชป.ลั่นจะเป็นฝ่ายค้าน 100% ไม่หวั่นถูกขับออก

วันที่ 29 ส.ค.66 ที่พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนสาขาพรรคประชาธิปัตย์ 4 ภาคทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคเหนือภาคกลาง และภาคกทม. ยื่นหนังสือถึงรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผ่าน นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้มีการ ลงนามจากสมาชิกทั่วประเทศ ประมาณ 100 คน เพื่อขอให้พรรคตั้งกรรมการตรวจสอบและลงโทษกรรมการ สมาชิกและตัวแทนเขตที่เป็นมูลเหตุให้การประชุมวิสามัญ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม แล้ววันที่ 6 สิงหาคม ล่ม เลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการ บริหารพรรคชุดใหม่ ไม่ได้ โดยเฉพาะครั้งที่ 2 ซึ่งได้แนบหลักฐานที่ตัวแทนเขตสมาชิกพรรค หรือโหวตเตอร์ เดินทางไปที่สปป. ลาว ในวันประชุมวิสามัญ วันที่ 6 สิงหาคม แล้วกลับมาประชุมไม่ทัน จนเป็นมูลเหตุให้องค์ประชุมล่ม เนื่องจากสร้างความ เสื่อมเสียงบประมาณและความแตกแยก ซึ่งเป็นการจงใจทำให้พรรคเสียหายเนื่องจากสมาชิกรับทราบกำหนดการประชุมอยู่แล้ว

 

ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประชุม 2 ครั้ง ประเมินมูลค่าได้นับ 10 ล้านบาท เป็นงบประมาณจากภาษีประชาชนที่บริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์ จำนวนหลายล้านบาทต่อปี รวมถึงค่าสมาชิกพรรครายปี การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ส่งผลให้พรรคถูกวิพากษ์วิจารณ์ นำความเสื่อมมาสู่พรรคประชาธิปัตย์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงขอให้กับหัวหน้าพรรคตั้งกรรมการสอบในเรื่องนี้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง มีไอ้โม่งคนไหนกลบอยู่หรือไม่ มีคนต้องการให้พรรคไม่มีหัวหน้าพรรคหรือไม่ รวมถึงการไป ส.ป.ป.ลาว มีอดีตผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมอยู่ด้วย มีนัยสำคัญอะไรหรือไม่

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ด้านนายเดชอิศม์ ขอโทษในนามรักษาการรองหัวหน้าพรรค และยอมรับว่าปัญหาองค์ประชุมล่มทั้ง 2 ครั้งไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ พร้อมย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง จนเป็นที่มาของปัญหาไม่สามารถเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ ทั้งนี้ในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

 

นายเดชอิศม์ ยังชี้แจงว่ากลุ่ม 16 สส.ที่โหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้โหวตสวนมติพรรค เพราะในที่ประชุมพรรคไม่ได้มีมติว่าจะโหวตไปในทิศทางไหน อีกทั้งยังมีความเห็นที่แตกต่างกันออกไป อาทิ นายชวน หลีกภัย ได้กล่าวในที่ประชุมว่าจะโหวตไม่เห็นชอบ เช่นเดียวกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน แต่การประชุมยังไม่เสร็จสิ้นก็ได้มีการปิดประชุมและไม่ได้มีมติอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับกรณีของการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ที่มีชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคก้าวไกล หลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีแนวคิดที่จะโหวตให้ในครั้งนั้นแต่ติดปัญหาในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112

 

 

 

ส่วนที่พูดว่าไปขอร่วมรัฐบาลไม่อายเขาหรือ ยืนยัน เป็นครั้งที่ร้อยว่าตัวสส. ไม่มีอำนาจในการเข้าร่วมรัฐบาลกรรมการบริหารพรรค ตัวบุคคลก็ไม่มีอำนาจหลักของประชาธิปัตย์คือต้องเทียบเชิญมา ประชุมร่วมกัน แล้วลงมติ พร้อมยกตัวอย่างการเลือกตั้งปี 2562 ที่พรรคมีการถกเถียงกันมาก โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายสาธิต ปิตุเตชะได้คัดค้าน ไม่อยากร่วมรัฐบาล หรือส่งเสริมพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือสืบทอดเผด็จการ ถกเถียงกัน 1 วัน 1 คืน สุดท้ายจบตรงลงมติ 61 คนขอให้ร่วมรัฐบาลเพื่อให้เดินหน้าไปได้ ส่วนอีก 16 คนเห็นว่ามีคนร่วม แต่ผลสุดท้ายคุณสาธิตก็มารับตำแหน่งในรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชวนรับตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนที่ตนบอกว่าใครไม่โหวตใครรับไม่ได้ แล้วออกไปหมายถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่ได้ตั้งใจมาพูดในวันนี้เพื่อขับไล่ใคร จึงขออย่านำเรื่องอื่น มาโยงใยเพื่อทำร้ายให้คนเกลียดชัง แล้วคนที่พูดดูดี

นายเดชอิศม์ ย้ำว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านร้อยเปอร์เซ็นต์ และขอให้ดูบทบาทฝ่ายค้านว่าเป็นจริงอย่างไร พร้อมขออย่ามองคนอื่นต่ำตัวเองสูง อยากฝากถึงคนประชาธิปัตย์ให้ทุกคนมองมาที่พรรค ทั้ง 360 องศาโดยเฉพาะเรื่องที่ได้จำนวนส.ส. ลดลง นโยบายโดนใจประชาชน ตรงต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่ต้องปรับแก้ ต้องดูผลการเลือกตั้งในจังหวัดของตัวเอง เขตตัวเอง ต้องดูตัวเองให้ชัดอย่าฟังลิ่วล้อมากเกินไป ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ใช้สติและคิด และกาฝากในประชาธิปัตย์ก็มี เป็นใหญ่เป็นโตเพราะเลียแข้งเลียขาผู้ใหญ่ พร้อมเห็นว่าประชาธิปัตย์ต้องกลับมาเริ่มคิดและนับหนึ่งใหม่ อย่าหลงงมงายกับกาฝากบางคนอาจจะโดนติดคุกที่มีเรื่องมีคดี เราอย่าคิด ว่าเป็นพรรคอื่นแล้วเราไม่ชอบจะเป็นคนชั่วหมด เป็นประชาธิปัตย์และต้องคนดีทั้งหมด เพราะ ประชาธิปัตย์มีทั้งเคยติดคุกคุกความจริงเท่านั้นที่จะพาให้ประชาธิปัตย์ เดินไปข้างหน้าถ้าไม่ยอมรับความเป็นจริงยากมากที่ชนะการเลือกตั้งสมัยหน้า

เมื่อถามว่าทำไมถึงโหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ตอนนั้นคิดว่าน่าจะไม่ผ่าน วันนี้ความเดือดร้อนของประชาชนมาก นักลงทุนจากต่างประเทศไม่กล้ามาลงทุน เพราะขาดความมั่นใจในประเทศไทย วันนี้เราประกาศชัดเจนเราเป็นฝ่ายค้านอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องมากังวลเรา ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ในการโหวตเลย ข่าวที่ออกว่าตนไปเจรจากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั้นไม่ได้เจอกับนายภูมิธรรมเลย ตั้งแต่เป็นส.ส.มาจนถึงวันนี้ ไม่มีโอกาสพบนายภูมิธรรมตัวเป็นๆเลย

ส่วนการที่มีสมาชิกไปพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้มีการขับสส.ทั้ง 16 คนออกจากพรรคนั้น นายเดชอิศม์ระบุว่า ยอมรับได้หมดเนื่องจากตนเองมาจากประชาชน แต่ถ้ายังอยู่ในพรรคนี้จำเป็นจะต้องปรับปรุงแก้ไขให้พรรคนี้ดีขึ้น แต่ถ้าเห็นว่าตัวเองไม่ควรอยู่พรรคนี้ก็พร้อมที่จะไป จะให้ตนเองเลิกเล่นการเมืองไปเลยก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องถามประชาชนก่อนเพราะประชาชนก็มีความคาดหวังในสส.

เมื่อถามว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าการโหวตสวนมติพรรคเพราะต้องการทำให้ประเทศเดินหน้า นายเดชอิศม์กล่าวว่า “ตนยืนยันต่อหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม เราไม่มีเงื่อนไขและผลประโยชน์ใด ๆ เลย หลังจากโหวตแล้วเราไม่ได้ไปพบใครเลยนั่นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะเราบอกแล้วว่าการร่วมรัฐบาลมี 3 ข้อ ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน หากอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ต้องได้รับเทียบเชิญและต้องประชุมร่วมกันแล้วมีมติออกมา ซึ่งสส.ทั้ง 16 คนได้ไปพูดคุยกันหน้าห้องประชุมว่าจะโหวตให้นายเศรษฐา แต่ก่อนหน้านั้นคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ วันนั้นหลายคนบอกโหวตให้เถอะ โดยเสนอในที่ประชุมสส. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อก็คงได้ยิน และมีหลายคนบอกงดออกเสียง แต่คนที่บอกว่าไม่เห็นด้วยมีนายชวนคนเดียว”

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากพรรคจะมีมติออกมาให้ขับ 16 สส. นายเดชอิศม์กล่าวว่าไม่กังวลเพราะหลักของประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับมติ

เมื่อถามว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าการประชุมสส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีมติงดออกเสียงในการโหวตนายเศรษฐา นายเดชอิศม์กล่าวว่าตนคิดว่าเป็นอย่างนั้นเพราะนายจุรินทร์เกรงใจนายชวน เพราะหากโหวตออกมาแล้วจะเป็น1 ต่อ24 เสียง จึงบอกว่าอย่าโหวตเลยให้เป็นเอกสิทธิ์ของสส. แต่หลายคนเข้าใจว่าเป็นมติเพราะด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่ นั่นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่มีมติออกมาว่างดออกเสียง เพราะถ้าเป็นมติต้องโหวตแข่งกันใน3 แนวทางนั้น และเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมดูเหมือนเห็นด้วยกับการงดออกเสียง

เมื่อถามว่าเมื่อเราโหวตเห็นชอบนายเศรษฐา แต่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ถือเป็นการโหวตให้ฟรีหรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่าไม่ถือว่าฟรี อย่างน้อยประเทศชาติก็ได้ประโยชน์

“เวลาเราเป็นฝ่ายค้านเราก็พูดได้เต็มคำว่า พวกผมให้โอกาสคุณไปใช้ แล้วประเทศชาติไม่เกิดประโยชน์ เราเล่นแรงนะครับ”

เมื่อถามว่าตอนนี้มีตัวกลางมาประสานรอยร้าวบ้างหรือยัง เพราะรัฐบาลก็ได้ไปแล้ว แต่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยังไม่ได้ นายเดชอิศม์กล่าวว่ายังไม่มีใครมาคุยเลยว่าจะเอาอย่างไร และวันศุกร์นี้ตนจะกลับบ้านที่สงขลาแล้วจะมีประชาชนจำนวนมาก ตนยังให้คำตอบเขาไมได้เลยว่ากรรมการบริหารพรรคเราจะได้เมื่อไหร่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น