AFP รายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างชาติกลุ่มแรกจากสเปนจำนวน 56 นายและสุนัขดมกลิ่ม 4 ตัวออกเดินทางจากสเปน มุ่งหน้ามายังเมืองมาราเคชแล้ว เพื่อร่วมปฏิบัติการกู้ภัยค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งนอกจากสเปน รัฐบาลโมร็อกโกตอบรับความช่วยเหลือจากอีก 3 ประเทศเท่านั้นรวมทั้งอังกฤษ, กาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ UAE โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การประสานงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เพราะช่วง 2-3 วันแรกหลังเกิดแผ่นดินไหวเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เจ้าหน้าที่กุ้ภัยต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่อช่วยผู้ที่ติดอยุ่ใต้ซากปรักหักพังจากด้านล่าง
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายชาติต่างเสนอตัวและเตรียมความพร้อมที่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมกู้ภัย รวมทั้งฝรั่งเศส, อินเดีย, อิสราเอลและสหรัฐ ขณะที่จีนประกาศจะส่งเงิน 2 แสนดอลล่าร์สหรัฐมายังสภาเสี้ยววงเดือนแดงของโมร็อกโกเพื่อใช้ในการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย
อย่างไรก็ตาม ผุ้ประสบภัยจำนวนมากออกมาบ่นว่าความช่วยเหลือและปฏิบัติการกู้ภัยเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่ทันใจ บางพื้นที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึง ทำให้ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงต้องช่วยกันระดมทุนและหาซื้อสิ่งของและอาหาร รวมทั้งเต๊นท์ เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย บางส่วนเข้าร่วมในการกู้ภัยด้วยมือเปล่า โดยเฉพาะหมู่บ้านสองแห่ง ที่จังหวัดอัล-ฮาอูส ศูนย์กลางแผ่นดินไหวซึ่งได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด บ้านเรือนพังราบเป็นหน้ากลองแทบไม่เหลือบ้านในสภาพดี โดยเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเฉพาะที่สองหมู่บ้านนี้ 1 พัน 351 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี่พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 2 พัน 122 คน บาดเจ็บมากกว่า 2 พัน 400 คนแล้ว
และเมื่อวานนี้ก็มีรายงานอาฟเตอร์ช็อค 4.5 แมกนิจูดเกิดขึ้นอีกรอบ ส่งผลให้ผุ้ประสบภัยส่วนใหญ่ต้องนอนกลางแจ้งเป็นคืนที่ 3 เพราะกลัวบ้านที่เสียหายหนักอยู่แล้วจะพังถล่มจากแรงอาฟเตอร์ช็อค
เหตุแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 6 ทศวรรษของโมร็อกโก ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมืองเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง รวมทั้งสุเหร่ามัสยิดโบราณจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรายงานโรงเรียนพังถล่มกว่า 500 หลัง
สำนักพระราชวังแห่งโมร็อกโกได้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ พร้อมให้ลดธงลงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน และสั่งระดมกองทัพกระจายกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชน