“ประเสริฐ” รมว.ดีอีเอส ยันระบบบล็อกเชน มีความโปร่งใส เงินดิจิทัล 10,000 บาท ถึงมือประชาชนทุกบาททุกสตางค์

รมว.ดีอีเอส ยืนยันบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกโรงพยาบาล เตรียมเชิญไรเดอร์มาหารือเรื่องแพลตฟอร์มต่อที่กระทรวง ชี้ บล็อกเชน มีความโปร่งใส เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ถึงมือประชาชนทุกบาททุกสตางค์

 

วันนี้ (12 ก.ย. 66) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 6 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ เป็นวันที่ 2 วันสุดท้าย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงข้อซักถามของเพื่อนสมาชิก ว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการพัฒนาระบบดิจิทัลของประเทศ จึงเป็นเหตุผลที่สำคัญอย่างยิ่งในการลงทุน Digital Infrastructure เช่น ดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งจะนำมารวมกันเป็น Digital Government อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงภาคเศรษฐกิจ และภาคการบริการ รวมถึงนำมาใช้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น

 

 

1.นโยบายการใช้บริการระบบคลาวด์ภาครัฐ (Cloud First Policy) เป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเน้นการสร้างพับบลิก คลาวด์ และไพรเวทซี่ คลาวด์ นอกจากนี้ยังดึงบริษัทชั้นนำทั่วโลกมาลงทุนในประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในเรื่องนี้ ปรับแนวทางในการจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้คลาวด์ให้มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น เปิดช่องทางให้มีการเช่าพื้นที่บริการ

ข่าวที่น่าสนใจ

 

2.Digital infrastructure & Digital Ecosystem
สร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรม ซึ่งมี Digital ID ในจำนวนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ขณะนี้อยู่ในระหว่างหารเพิ่มจำนวน ส่งเสริมการนำข้อมูล Big Data มาใช้ ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ

 

3.ส่วนโครงการ Health Link ร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุขในการใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังได้ทำร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวโดยเป็นโครงการ Travel link ได้มีการจัดทำแผนแม่บทในการบูรณาการความแตกต่างของแต่ละกระทรวง มาพัฒนาระบบสารสนเทศ ทำ Super App รวมทุกแพลตฟอร์มของภาครัฐโดยใช้เทคโนโลยี Blockchains จะเกิดการเชื่อมต่อข้อมูลซึ่งกัน และกันไม่ทำให้ประชาชนสับสน และสร้างความซับซ้อน

 

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า จะนำข้อมูลมาต่อยอดทางภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนโดยนับเป็นมาตรการเชิงรุก ให้ความสำคัญมีการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐให้ภาคธุรกิจและประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดประโยชน์มีการแบ่งปันสถิติตามมาตรฐานสากล เราจะนำเรื่องเหล่านี้มาพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ต้องทำภายใต้การเคารพข้อมูลส่วนบุคคลจึงส่งเสริมให้ภาครัฐ และภาคเอกชนในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA และเตรียมความพร้อมเรื่องของการบังคับใช้

 

นายประเสริฐ ระบุว่า ต่อส่งเสริมให้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เกษตรอัจฉริยะ ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้ และลดต้นทุน

 

 

 

“การทำงานของกระทรวงมีแผนให้นำเอาเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพ ได้มีโอกาสในการพัฒนาประเทศ โดยการเปิดประตูการค้ากับภาครัฐเป็นเรื่องสำคัญ การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ การส่งเสริมเมืองให้มีการใช้เทคโนโลยีที่ มีทั้งข้อมูลเมือง การออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเมืองทางด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในอนาคตการพัฒนาระบบนิเวศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นการปิดช่องว่างโดยรัฐบาลจะสนับสนุนทั้งผ่านรูปแบบ PPP และ Matching Found”

 

1.ใช้ ioT

 

2.จัดทำสถาปัตยกรรมทางดิจิทัล กระทรวงมีแนวคิดเรื่อง Digital Literacy จัดอบรมทั้งภาคราชการ และเอกชน ซึ่งเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จะสร้างแรงจูงใจให้กับพี่น้องประชาชนได้รู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เงิน 10,000 บาทถึงมือพี่น้องประชาชนครบทุกบาททุกสตางค์นอกจากนี้แล้ว Blockchains ยังสามารถสร้างความโปร่งใส สร้างงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ และคาดว่ารวมถึงสร้างรายได้ได้ทั่วโลก

 

3.ความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ open contracting policy เรามุ่งมั่นจะนำมาแก้ไขเพื่อให้เกิดความโปร่งใส คือ การใช้ระบบการจ่ายเงินภาครัฐผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์, การเปิดขอใบอนุญาตและขอใบรับรองผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ one stop service, นำระบบบล็อกเชนมาใช้เพื่อขับเคลื่อนเป็น Digital Government

 

ต่อมานายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.พรรคก้าวไกล ได้ขอลุกขึ้นอภิปรายว่า หลายอย่างที่ท่านได้นำเรียนเจ้าหน้าที่ได้เตรียมมาให้ ซึ่งหลายอย่างเป็นเรื่องของรายละเอียดที่ต้องมีการลงรายละเอียด ในส่วนของคลาวด์กลางภาครัฐ จะใช้วิธีการดึงดูดนักลงทุนโดยมีการวางเงื่อนไขที่เกิดการจ้างงาน และประเทศไทยได้ประโยชน์ส่วน Digital ID ที่เป็นปัญหาอยู่ เพราะมีค่าธรรมเนียมที่แพง และไม่ทำให้เกิดการใช้จริง ส่วน Thai ID มีปัญหาที่เป็นของกระทรวงมหาดไทย และไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลทำให้ไม่มีการเกิดดาต้าอีโคโนมี่

 

“การแก้ปัญหาคือควรไปเจรจาทำให้ Digital ID เป็นช่องทางกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลของประเทศ และเอา Thai ID มารถเชื่อมกับ ID ให้ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมซึ่งก่อนการจัดตั้งรัฐบาลเราได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้จนได้ข้อสรุปที่เรียบร้อยแล้ว และเรื่องของ Health Link โรงพยาบาลไม่ยอมเข้าร่วมครบทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐ หรือเอกชน เพราะไม่มีข้อมูลกลางใน การแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพระหว่างกัน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น