“ดร.สามารถ” ชี้ทางสว่าง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นำร่องสายสีแดง-ม่วง แค่เดือนเดียวก็ทำได้ ไม่ต้องให้ปชช.รอถึงปีใหม่

“ดร.สามารถ” ชี้ทางสว่าง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นำร่องสายสีแดง-ม่วง แค่เดือนเดียวก็ทำได้ ไม่ต้องให้ปชช.รอถึงปีใหม่

 

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตีว่าการกระทรวงคมนาคมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ระบุว่า ถ้ามีเกรดอี บี ซี ส่วนตัวขอให้ตัดเกรดซี หรือแค่ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ให้รัฐบาล เพราะนโยบายดังกล่าวไม่มีความชัดเจน

 

 

โดยเฉพาะการทำเรื่องนี้ต้องมองทะลุตั้งแต่ต้นว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้รัฐบาลยังมีความคิดผิด ๆ ว่า การลดค่าโดยสารจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังจะไปขอส่วนแบ่งกับเอกชนผู้ได้รับสัมปทานด้วย แต่ไม่เป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลต้องไปชดเชยให้เอกชนไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านต่อปี จากการที่ทำให้เขาต้องขาดรายได้ในการจัดเก็บค่าโดยสารที่ ยกตัวอย่างเช่น เรานั่งรถไฟฟ้าจากสถานีหมอชิตไปสถานีสยาม ค่าโดยสาร 47 บาท แต่เก็บได้แค่ 20 บาท ดังนั้นรัฐบาลต้องชดเชยเงินที่ขาดหายไปให้เอกชนจำนวน 27 บาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามที่รัฐบาลคาดหวังไว้

 

 

 

 

ส่วนที่นายสุริยะบอกว่าการลดราคารถไฟฟ้า 20 บาทจะทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์นั้น ดร.สามารถ กล่าวว่า ผู้โดยสารอาจเพิ่มขึ้นจริงอย่างที่นายสุริยะพูด แต่จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งสุดท้ายรัฐบาลก็ต้องไปชดเชยให้เอกชน

 

 

อย่างไรก็ตามสำหรังบรถฟ้าเปิดให้บริการทั้งหมด 7 สาย คือสายสีเขียว น้ำเงิน ม่วง สีแดง สีเหลือง สีทอง และแอร์พอร์ตลิงค์ โดยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอยู่ที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ประมาณเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์

 

 

ส่วนที่เหลือเป็นของบริษัทรถไฟฟ้า รฟท.จำกัดของการรถไฟของประเทศไทย ดังนั้นหากจะทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้สำเร็จ รัฐบาลต้องจ่ายเงินค่าลดเชยให้กับ 3 บริษัทที่กล่าวมาข้างต้นโดยเฉพาะบีทีเอส และบีอีเอ็ม ส่วนของการรถไฟไทยน่าจะไม่มีปัญหา ซึ่งต้องเจรจากับบีทีเอสก่อน เพราะมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด และถ้าบีทีเอสยอมรับเงื่อนไข เชื่อว่าบีอีเอ็มก็น่าจะรับด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

 

เมื่อถามว่าหากจะให้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดขึ้นจริงต้องมีขั้นตอนอย่างไร ดร.สามารถ กล่าวต่อว่า อันดับแรกต้องตั้งคณะกรรมขึ้นมา 1 ชุด โดยเรียกว่าคณะกรรมการกิจการรถไฟฟ้า เพื่อทำหน้าที่ในการเจาจากับเอกชนผู้รับสัมปทาน รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ในแต่ละวันให้แก่ผู้เดินรถไฟฟ้าแต่ละราย และยังรวมถึงหลักเกณฑ์ในการชดเชยเงินให้เอกชนด้วย ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างมาก

 

 

“เรื่องรถไฟฟ้ามีการหาเสียงกันมาตลอด โดยเฉพาะในปี 2547 นายสุริยะเป็นรัฐมนตรีคมนาคม ในสมัยไทยรักไทย ที่ตอนนั้นบอกว่า จะเก็บค่าบริการแค่ 15 บาทตลอดสาย อีกทั้งยังมีแนวทางที่จะซื้อสัมปทานคืน แต่สุดท้ายก็เหลว

 

 

ส่วนครั้งที่สองปี 2554 รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหาเสียงว่า จะทำให้รถไฟฟ้าเหลือแค่ 20 บาทตลอดสาย แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ทำ ซึ่งตอนนั้นเป็น สส.ตั้งกระทู้ถาม แต่คำตอบที่ได้คือ ต้องก่อสร้างรถไฟฟ้าให้ครบ 10 สายก่อน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้าง 10 สายภายในสี่ปีของอายุรัฐบาล คือคำตอบที่ได้มา เมื่อมาถึงเลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งผู้ว่ากทม.ก็มีการหาเสียงเรื่องนี้ แต่ก็ทำไม่ได้ ” ดร.สามารถ กล่าว

 

 

อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่า รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายหากทำอย่างจริงจังเชื่อว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ไม่จำเป็นต้องถึง 2 ปี เพราะเป็นนโยบายเร่งด่วนที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้

 

 

 

ดร.สามารถ กล่าวต่อว่า การใช้อัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายต้องกำหนดด้วยว่าใช้ได้กี่ชั่วโมง เพราะหากไม่มีการกำหนดไว้ ประชาชนสามารถใช้ 20 บาทตลอดสายได้ทั้งวัน จะทำให้ไม่คุ้มค่า ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้ส่วนตัวมองว่า รัฐบาลไม่มีความชัดเจน จึงไม่ทราบว่าหาเสียงมาได้อย่างไร

 

 

นอกจากนี้การที่นายสุริยะจะนำร่องรถไฟฟ้าสายสีแดง และสีม่วงก่อนนั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีแดงมีค่าโดยสารในอัตรา 12-42 บาท และถ้าปกติประชาชนขึ้นแค่สถานีเดียวในอัตราแค่ 12 บาทเท่านั้น แต่มาถึงวันนี้รัฐบาลจะมากำหนดให้เขาต้องจ่าย 20 บาทนั้น คิดว่าคนที่เคยจ่าย 12 บาทจะยอมหรือไม่ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีอ๊อฟชั่นให้ประชาชน ไม่ใช่มามัดมือชกให้ซื้อในราคา 20 บาท

 

เมื่อถามว่า การที่นายสุริยะบอกว่าจะนำร่องสายสีแดง และสีม่วงก่อน โดยระบุว่าจะเป็นของขวัญให้ประชาชนในเทศกาลปีใหม่นั้น ดร.สามารถ กล่าวว่า รัฐบาลสามารถนำร่องได้ทันทีในวันที่ 1 ตุลาคม เพราะสายสีแดง และสายสีม่วงเป็นของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์

 

โดยสีแดงเป็นของ รฟท. ส่วนสายสีม่วงเป็นของ รฟม. อีกทั้งก่อนหน้านี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็เคยใช้ 20 บาทตลอดสายเช่นกัน

 

 

ดังนั้นจึงสามารถทำได้ทันที โดยใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ และประชาสัมพันธ์เล็กน้อย เชื่อว่า ไม่เกินสองสัปดาห์สามารถทำได้ทันทีไม่ต้องรอถึง 3 เดือน

 

 

 

 

“ผมมองว่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเป็นนโยบายที่ไม่ตรงปก เพราะรัฐบาลหาเสียงว่า จะขึ้นสายไหนก็ได้ทั้งหมด เช่นหากผมนั่งสายสีม่วงจากบางใหญ่ไปเตาปูน จากนั้นมากระโดดขึ้นสายสีน้ำเงินที่เตาปูนไปสำโรง ผมต้องจ่าย 20 บาทครั้งเดียว รัฐบาลทำเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนตัวมองว่า ทำไมต้องรอให้ถึงปีใหม่ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า ต้องการทำให้ประชาชน คนกรุงเทพมีความสุข โดยต้องการหาเสียง เพื่อคะแนนนิยมก็เป็นไปได้ เพราะข้อเท็จจริง และทางเทคนิคไม่ต้องรอให้ถึงปีใหม่” ดร.สามารถ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น