วันที่ 15 ก.ย.66 ที่ สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์หลังประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า เห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เพื่อให้ฝ่ายค้านทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเชิงมหภาค และจุลภาค เพราะผู้นำฝ่ายค้านก็มีความจำเป็น ถือเป็นเรือหลักในการอภิปรายเรื่องสำคัญ เช่น งบประมาณ อภิปรายแนะนำรัฐบาล และอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือเป็นเรื่องส่วนรวมไม่ต้องห่วงผม ห่วงประชาชน บ้านเมือง และประเทศดีกว่า ยืนยันว่า ไม่ได้ยึดติดกับหัวโขน เชื่อว่าปัจจุบันทำงานได้ แม้จะไม่มีตำแหน่ง ตอนนี้จิตใจเกินร้อย พร้อมเดินหน้าทำงานในช่วงรอคำตัดสินศาล เพื่อเขย่าการเมืองไทย และเขย่าปัญหาประชาชน ส่งต่อปัญหาให้ สส.พรรคก้าวไกล ในสภา มีแผนเดินทางไปจ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ภาคใต้ และเตรียมไปต่างประเทศ เช่น นิวยอร์ก อังกฤษ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เพื่อทำงานเขย่าการเมืองทั้งในและนอกประเทศ
“พิธา” ลั่นไม่ต้องห่วงผม หลังลาออกหัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำเดินหน้าเขย่าการเมืองไทยทั้งในและนอกปท.
ข่าวที่น่าสนใจ
ส่วนบทบาทหน้าที่หลังจากนี้ในพรรคก้าวไกล จะเป็นอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า แม้จะลาออกจากหัวหน้าพรรคแต่ยังคงรักษาการหัวหน้าพรรคไปจนถึง 23 กันยายน ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และหัวหน้าพรรค ส่วน 24 กันยายน เป็นกิจกรรมที่พรรคก้าวไกลจัดขึ้น จากนั้นเมื่อได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็จะเดินหน้าเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก โดยย้ำว่าการลาออกครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการไม่มั่นใจในคำตัดสินของศาล โดยตนจะทำหน้าที่ชี้แจงอย่างเต็มที่ในศาล เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร
โดยระบุว่ากระบวนการที่ กกต.สืบมา ซึ่งเชื่อว่า ผู้สื่อข่าวและสังคม สามารถเทียบคำตัดสินของศาลฎีกาได้ โดยส่วนตัวมั่นใจทั้ง 2 คดี พร้อมกันนี้ นายพิธา ยังระบุอีกว่า ส่วนตัวมองว่า มีคนที่มีคุณสมบัติพร้อมป็นหัวหน้าพรรคในช่วงระยะเวลาหนึ่ง 4-5 คน ขึ้นอยู่ที่ว่าจะเอาบู๊ หรือเอาบุ๋น หนึ่งในนั้นคือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอการประชุมจากกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้มีเจ้าของเป็นคนใดคนหนึ่ง แต่ของเราเป็นระบบ มีกฎหมายพ.ร.บ.พรรคการเมือง ในเรื่องของข้อบังคับพรรคที่ยังมีอยู่ ส่วนตัวนายพิธา จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น นายพิธา บอก เป็นเรื่องของอนาคต เมื่อถามถึงกระแสข่าว จะขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ออกจากพรรคเพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภานั้น นายพิธา ระบุว่า ต้องหารือกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน และเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะต้องพูดคุยกับนายปดิพัทธ์ และต้องฟังความเห็นของนายปดิพัทธ์ ด้วย ส่วนจะพูดกับแฟนคลับพรรคก้าวไกลอย่างไรนั้น นาย พิธา ระบุว่า เจอกันทั่วประเทศ ทั่วโลก และกว่าจะพบกันใหม่
ทั้งนี้ นายพิธา ดีใจที่ติดอันดับ 100 ผู้มีอิทธิพล ของนิตยสารไทม์ ดีใจทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ที่มีความพยายามเขย่าการเมืองไทย ขยับเขยื้อนให้ไทย มีส่วนสำคัญในบริบทอาเซียน และทั่วโลก สร้างความสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง