“ทนายอานนท์” จัดปาร์ตี้ก่อนลุ้นตัดสินคดี 112 หลังเปิดระดมทุน “บิ๊กก้าวไกล”ร่วมคึกคัก

"ทนายอานนท์" จัดปาร์ตี้ก่อนลุ้นตัดสินคดี 112 หลังเปิดระดมทุน "บิ๊กก้าวไกล"ร่วมคึกคัก

ช่วงค่ำวันที่ 23 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบราษฏร หรือ ม็อบ 3 นิ้ว ได้จัดเลี้ยงพบปะกับกลุ่มมวลชน ก่อนจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาคดี มาตรา 112 ในวันที่ 26 กันยายน 2566 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก จากการปราศรัยในม็อบ 14 ตุลา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ตุลาตม 2563 ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีแรกของนายอานนท์ และนายอานนท์คาดว่าตัวเองจะถูกศาลตัดสินจำคุกและไม่ได้ประกันตัว จึงจัดงานเลี้ยงในครั้งนี้ ที่สำคัญได้มีการเปิดรับบริจาคเงินมาจัดงานเลี้ยงด้วย

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้บรรยากาศเลี้ยงส่งเป็นไปอย่างคึกคัก มีการดื่มแอลกอฮอล์และร้องเพลงกันชื่นมื่น มีมวลชนม็อบ 3 นิ้วมาร่วมงานเลี้ยง เพื่อให้กำลังใจนายอานนท์กันแน่นร้าน นอกจากนี้ยังมีแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ตัวแทนพรรคก้าวไกล และเครือข่ายม็อบ 3 นิ้วมาร่วมเลี้ยงส่งนายอานนท์อย่างหน้าพร้อมตา อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล คนใหม่ ที่ได้ร่วมร้องเพลงทุ่งฝันวันใหม่กับนายอานนท์ด้วย ,นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ,นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกล , นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ,นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ,ตัวแทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ,นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ , นายธัชพงศ์ แกดำ ,นายภาณุพงศ์ มะณีวงศ์ หรือ ไมค์ ระยอง สามแกนนำม็อบ 3 นิ้ว และนายปริญญา ชีวินกุลปฐม หรือพอร์ท วงไฟเย็น ผู้ต้องหาคดี 112

ข่าวที่น่าสนใจ

 

โดยนายอานนท์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นงานเลี้ยงส่ง ที่ต้องการให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ต่อสู้ร่วมกันมาได้มาพบปะกัน เพราะได้ร่วมสู้กันมาอย่างยาวนาน และหลายคนก็ร่วมสู้กันมาตั้งแต่สมัยคนเสื้อแดงกว่า 10 ปี มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้จัดงานให้ซีเรียสอะไร เหมือนเป็นงานที่อยากให้มาร่วมเลี้ยงส่งกันมากกว่า ซึ่งตนเองก็รู้สึกอบอุ่น และอยากให้ทุกคนมีกำลังใจในการต่อสู้ไปข้างหน้า เพราะในทางข้างหน้าก็มีความแหลมคมที่เพิ่มมากขึ้น และมีหลายคนที่แสดงตัวออกมาอย่างชัดเจนว่าเลือกข้างแล้ว ส่วนที่เหลือก็คงเป็นการต่อสู่ที่ยืดเยื้อ และระยะยาว

ส่วนเรื่องคดี นายอานนท์ ชี้แจงว่า ในวันที่ 26 กันยายนนี้ ศาลจะพิพากษาคดี ม.112 ซึ่งถือว่าเป็นคดีแรกของตนเอง และเป็นไปได้สูงที่ศาลจะไม่ให้ประกันตัว เพราะจะเห็นได้ว่าศาลไม่ค่อยให้ประกันตัวในคดีทางการเมือง ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคดีที่เกี่ยวกับ ม.112 และคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็ต้องสู้กันต่อไป ส่วนกำลังใจนั้น ยืนยันว่ายังดีอยู่

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่นิ่ง และเป็นช่วงของการรุกกลับของขั้วอำนาจเดิมที่จ้องจะจัดการกับคนที่เห็นต่างอยู่แล้ว และเป็นช่วงที่ระบบราชการยังไม่นิ่ง หากสังเกตคำพิพากษาในหลายคดีจะเห็นว่าพิพากษาจำคุก และไม่ได้ให้รอการลงโทษ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับการประกันตัว

ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองคดี ม.112 นายอานนท์ กล่าวว่า ทราบว่ามีการเริ่มพูดถึงแล้ว แต่จะไปถึงจุดไหนเราก็ต้องช่วยกัน เพราะตอนนี้หลายคนอยู่ในช่วงล้า และผิดหวังกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเราจะชนะ แต่ก็ยังมีปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ถึงพรรคเพื่อไทยจะจัดอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยเดิม แต่ก็ถูกพรรคฝ่ายเผด็จการขี่คอ ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากจะให้กำลังใจกัน และต่อสู้ไปด้วยกัน

นายอานนท์ ยังได้ให้กำลังใจนักกิจกรรมรายอื่นๆ พร้อมระบุว่า ในการต่อสู้มักมีรายจ่ายของชีวิต ตนเองก็พร้อมที่จะจ่ายตรงนี้ ถ้าทำให้สังคมดีขึ้น อยากให้ทุกคนมีกำลังใจ สู้ต่อไป และช่วยกันสนับสนุนต่อไป เพราะสิ่งที่สู้มีความแหลมคมกว่าที่คาดคิด เชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้ในเร็วๆ นี้

ส่วนรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จะทำให้การต่อสู้ทางการเมืองลดน้อยลงหรือไม่ นายอานนท์ กล่าวว่า พูดได้ยาก เพราะพรรคเพื่อไทยก็มีเงื่อนไขจากพรรคร่วมอยู่ การเมืองนอกสภาจะต้องกลับมาอีกครั้งเมื่อการเมืองในสภานั้นมีปัญหา ส่วนแนวโน้มของการชุมนุมในรัฐบาลเพื่อไทย ตนคิดว่าเราไม่ได้กำลังต่อสู้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่เราสู้กับโครงสร้างที่มันใหญ่กว่านั้น จึงเชื่อว่าการเมืองนอกสภายังเป็นคำตอบอยู่ ถึงจะไม่ใช่คำตอบโดยตรง แต่ก็จะซัพพอร์ตการต่อสู้โดยรวมของประเทศไทย

 

 

ด้านนางอมรัตน์ กล่าวถึงกรณีของนายอานนท์ ว่า เพราะเรื่องแบบนี้ เราถึงคิดเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 เป็นกฎหมายที่สำคัญที่ควรจะพิจารณาในสภา ไม่ต้องมาเป็นวิวาทะระหว่างประชาชนที่เห็นต่าง ถ้ามีการเปิดพื้นที่ให้พูดคุยกันในสภา หากโหวตแพ้เราก็ยอมรับ ซึ่งกรณีนี้ตนก็มองว่าไม่เป็นธรรมกับนายอานนท์ เราก็คิดถึงเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทั้งหมด เพราะเป็นคดีที่เห็นต่างกัน และมองว่าไม่เป็นไปตามหลักสากล หรือขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

นางอมรัตน์ ยังฝากถึงรัฐบาลของนายเศรษฐาว่าให้ความสำคัญเรื่องคดีทางการเมืองด้วย เพราะที่ไหนไม่มีความยุติธรรม ที่นั่นก็ไม่มีความสงบ ซึ่งจะส่งผลไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล รวมทั้งขอให้ลงนาม ICC หรือศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการรัฐประหาร และเรื่องแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้

 

ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่านายอานนท์เป็นคนที่มีความแหลมคม แต่ในด้านหนึ่งเขาเป็นพ่อคนของเด็กที่เพิ่งคลอดได้ไม่นาน ก็หวังว่าในวันที่ 26 กันยายนนี้ จะผ่านไปได้ด้วยดี ทุกอย่างจะจบในรูปแบบที่ครรลองของระบอบประชาธิปไตยของประเทศที่เจริญแล้วควรจะเป็น การแสดงออกหรือวิพากษ์วิจารณ์ได้ รวมถึงการตีความเกี่ยวกับคดี ม.112 ควรจะถูกจำกัดจริงๆ ก็หวังว่าเขาจะได้กลับมากอดลูกเจอหน้าภรรยา

ส่วนการดำเนินคดี ม.112 ในยุครัฐบาลชุดนี้ จะน้อยลงกว่าในสมัยรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากพูดแบบให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คงยากที่จะสรุปอะไรได้ในตอนนี้ เพราะยังไม่เห็นอะไรผ่านการแถลงนโยบายของรัฐบาล และไม่ได้เห็นอะไรในการเอาจริงเอาจังเกี่ยวกับเรื่องนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น