จากกรณี กองบัญชาการตำรวจภูธร ภ.2 ได้รายงานเหตุกรณี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มีเหตุเป็นที่สงสัยว่าประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ และกระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา หากปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิม อาจเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน หรืออาจยุ่งเหยิง กับพยานหลักฐานและก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการได้ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและให้การดำเนินการของ ตร.ภ.2 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร ผบ.ตร จึงลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ต. กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จนกระทั่งต่อมาถูกย้ายขาดจากตำแหน่งเดิมไปเป็น ผบก.ประจำตร.สันติบาล
ทั้งนี้เกิดจากกรณี มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ใช้รถตู้หรูป้ายแดงบุกพูลวิลล่า ย่านหาดจอมเทียนพัทยา และอาวุธปืนยิงยางรถยนต์ของผู้เสียหาย 3 คัน แล้วใช้ด้ามปืนทุบศีรษะทำร้ายร่างกาย มีผู้บาดเจ็บ 5 คน ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี
อดีตผู้การชลบุรี แจ้งความ ดำเนินคดี “บิ๊กโจ๊ก”พร้อมพวก ข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ (157) เตรียมขอความเป็นธรรม จาก ผู้บังคับบัญชา ย้ายกลับมานั่งตำแหน่ง ผบก.ชลบุรี ตามเดิม
ข่าวที่น่าสนใจ
ต่อมาชุดสืบสวนขยายผลพบหลักฐาน ว่ามี พ.ต.อ. ตำแหน่งรอง.ผบก.ชลบุรีตำมีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา มีการเรียกรับสินบนถึง 1 ล้านบาท ทำให้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (บช.ภ.2) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยขั้นร้ายแรง พร้อมแจ้งข้อหา และย้ายมาประจำการที่ ศปก.ภ.2 เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด
ต่อมาเมื่อ 14 พ.ย. 2565 “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ลงไปตรวจสอบตั้งแต่มีการยิงกันในโรงแรมที่พัทยา จนพบว่าตัวผู้ต้องหาที่มามอบตัว 2 คน เป็นตัวปลอม จากการสอบสวนซักปากคำสุดท้ายเจ้าตัวรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างมาให้มาเป็นผู้ต้องหาแทน จึงมีความเห็นในทางคดีจับกุมดำเนินคดี และสั่งฟ้องผู้ต้องหา 2 คน ต่อศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี รับสารภาพลดเหลือกึ่งหนึ่ง 6 เดือน แต่ศาลไม่รอลงอาญาได้สั่งจำคุกเลย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำ และ ผบช.ภ.2 ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรม เรื่องนี้ทำตามพยานหลักฐานถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ส่วนผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้จับทั้งหมดแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ได้ดำเนินการไปแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 ก.ย.2566 พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการประจำตำรวจสันติบาล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เดินทางพบ พ.ต.ท.พงศ์สวัสดิ์ วงศ์วาน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง.ผบ.ตร. พร้อมพวก ”ในข้อกล่าวหาละเว้นในการปฎิบัติหน้าที่ (157)” พล.ต.ต.กิตติธเนศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจาก หลังจากมอบเอกสารให้กับพนักงานสอบสวนว่า ”ผมมาวันนี้ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง มาใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเองตามกฏหมายไม่ได้ ไม่ต้องการไปก้าวล่วงหรืออะไรใคร ผมก็ใช้ข้อมูลจากผลการสอบสวนที่เกิดขึ้น มาแจ้งความเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองก็แค่นั้น ผมเป็นข้าราชการเมื่อผมถูกกล่าวหาก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อตรวจสอบ เสร็จสิ้นแล้ว ผลยุตติว่าผมไม่ผิด มันเป็นเรื่องที่ผมสมควรต้องได้รับความเป็นธรรมคืน ในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับบิ๊กโจ๊กในวันนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับผม ครั้งที่แล้วที่ผมมาแจ้งความที่นี่ก็บังเอิญตรงข่าวของ ผู้การกำพล พอดีผมไม่รู้ว่าทำไม มันบังเอิญ 2 ครั้ง เรื่องมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับเรื่องตอนเช้า เป็นเรื่องที่ผมเตรียมไว้อยู่แล้ว ในส่วนการจะกลับมาเป็นผู้บังคับการชลบุรีหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา ในส่วนตัวผมก็ต้องยื่นเรื่องขอความเป็นธรรม ผมก็ต้องใช้สิทธิ์ในส่วนที่เสียสิทธิ์ไป ส่วนผลการพิจารณานั้นอยู่ที่ ผู้บังคับบัญชา ส่วนในวันนี้ผมมาแจ้งความดำเนินคดีกับใครบ้างรายละเอียดอยู่ที่ร้อยเวร พนักงานสอบสวนแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นนายตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ ส่วนที่ ”บิ๊กโจ๊ก”โดนเข้าตรวจค้นบ้าน ผมก็ไม่ขอกล่าวถึงเพราะเป็นคนละส่วนกัน และผมก็ไม่ทราบ ตัวผมก็พร้อมถูกตรวจสอบ และถูกตรวจสอบมาเรียบร้อยแล้วยินดีให้ตรวจสอบ พล.ตดต.กิตติ์ธเนศ กล่าวอีกว่า ”ที่ผ่านมาผมก็มีวินัย ไม่เคยไปกล่าวร้าย ผู้บังคับบัญชา ไม่เคยให้ร้ายองค์กรส่วนสังคมจะมองว่าเกิดอะไรขึ้นกับตำรวจ ก็ต้องบอกว่าทุกที่มีคนดีและคนไม่ดีเป็นเรื่องปกติ เราต้องแยกแยะกัน อย่าเอาไปรวมกัน ส่วนจะฝากอะไรให้ตำรวจนั้น ผมก็อยากจะบอกว่าความจริงมันมีหนึ่งเดียว ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ความจริงจะอยู่ตลอดไป”
ภาพ/ข่าว ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง