“รมว.พิพัฒน์”ยัน “ค่าจ้างขั้นต่ำ” ปรับขึ้นทันปีใหม่

ปัจจุบัน ความต้องการแรงงานภาคการท่องเที่ยว ยังขาดแรงงาน อยู่ที่ประมาณ 25% หรือ ประมาณ 1 ล้านคน จากเดิมที่มีแรงงานภาคการท่องเที่ยวประมาณ 4 ล้านคน ในปี 2562 ซึ่งกระทรวงแรงงานจะต้องจัดหาแรงงานเพื่อมาเติมเต็มภาคการท่องเที่ยวให้เพียงพอ และถือเป็นงานที่ท้าทายสำหรับกระทรวงแรงงานอีกด้วย ทั้งนี้ มองว่าจะส่งเสริมในส่วนของนักศึกษาที่ยังไม่ได้งานทำเพื่อมาอัพสกิล เพื่อรองรับงานในส่วนนี้

ในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน นายพิพัฒน์ ยอมรับว่า จะเกิดขึ้นแน่นอนในส่วนของแรงงานที่มีการอัพสกิล ซึ่งหลังจากนี้จะมีการหารือกับภาคเอกชน ทั้ง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ถึงสาขาอาชีพที่ต้องการให้มีการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อที่กระทรวงแรงงานจะดำเนินการ ซึ่งนายจ้างได้เห็นด้วยในจุดนี้ ส่วนในมุมของลูกจ้างที่ต้องการค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันนั้น ตนสามารถประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้ แต่จะส่งผลให้แรงงานตกงานไม่น้อยกว่า 50% โดยเฉพาะแรงงานในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอี

ดังนั้น ในส่วนของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน ควรอยู่บนพื้นฐานของเงินเฟ้อ เนื่องจากแค่ละจังหวัด หรือแต่ละอุตสาหกรรมไม่เท่ากัน และจะต้องมีการนำเอาเงินเฟ้อพื้นฐานขั้นต้นและค่าครองชีพมาร่วมประเมินค่าแรงขั้นต่ำ และจะต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการไตรภาคีที่มีนายจ้างและลูกจ้างร่วมพิจารณา ยืนยันค่าแรงขั้นต่ำจะมีการปรับขึ้นทันในช่วงปีใหม่แน่นอน โดยคาดว่าสิ้นเดือนพ.ย.นี้ น่าจะจบได้

นายพิพัฒน์ ระบุว่า ต้องยอมรับว่า ไทยจำเป็นต้องมีแรงงานต่างด้าว ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 5 ล้านคนทั้งแรงงานที่ถูกกฎหมาย และแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมาย เมื่อมีการประกาศค่าแรงขั้นต่ำ แรงงานต่างชาติก็จะได้รับค่าแรงเหล่านี้ด้วย เพราะการเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำ เป็นการเรียกร้องภาพรวมของแรงงานที่เกิดขึ้นในไทย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการอัพสกิลให้ได้ค่าแรงที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำทั่วไป เพื่อดูแลเอาใจใส่คนไทยก่อน แต่ก็ยอมรับว่าขาดแรงงานต่างด้าวไม่ได้ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีแรงงานต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น