นายมนัส โกศล หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ กล่าวถึงนโยบายแรงงานของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความกังวลในเรื่องการส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศร่วมแสนคน การส่งเสริมทักษะแรงงานฝีมือแรงงาน ถึงแม้พรรคจะไม่มี ส.ส.ในสภา แต่เราก็จะติดตามการทำงานของรัฐบาลต่อไป อะไรคือความหวังของประชาชน เราจะนำข้อเสนอของภาคประชาชนยืนต่อรัฐบาล รวมถึงการแก้กฎหมายภาครัฐทำให้ข้าราชการมีสวัสดิการที่มั่นพร้อมที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะนโยบายการปรับค่าแรงจากเดิมเป็น 400 บาท ถามว่าหากรัฐบาลเมื่อมีการปรับค่าแรงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างหนักในภาคเกษตรและผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก จะเป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ไขด้วย รวมถึงเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ในระยะยาว และสิ่งที่มีผลกระทบกับประชาชนในขณะนี้กับเป็นเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ประชาชนเริ่มเดือดร้อนจากเจ้าหนี้ที่ให้ประชาชนกู้เงินง่ายๆและมีขบวนการติดตามหนี้เหมือนพวกหมวกปิงปอง ธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีมาตรการควบคุมได้อย่างไร นอกจากนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรจะมีการแก้ไขควรเป็นการบรรจุบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุข มากกว่าที่จะเสนอการจ่ายเงินเดือนเป็น 2 ครั้งซึ่งกระแสนี้ได้รับการต่อต้านในทุกภาคส่วน
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 เปิดการประชุมอบรมโครงการเสริมสร้างความรู้ประชาธิปไตยและกฎหมายให้สมาชิกพรรคแรงงานสร้างชาติและประชาชน โดยมีนายวสันต์ พานเงิน เลขาธิการพรรคฯ นายศรศาสตร์ นาเมืองรักษ์ โฆษกพรรค และกรรมการบริหารพรรคแรงงานสร้างชาติ ตลอดจนสมาชิกพรรค ร่วมรับฟังการอบรมครั้งนี้ด้วย
นายมนัส กล่าวว่าปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองที่ประเทศต่าง ๆ ใช้กันมากที่สุดระบอบหนึ่งซึ่งเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ ระบอบการเมืองที่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถดำเนินกิจกรรมด้านประชาธิปไตยสาธารณะได้ เป็นความพยายามที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่สามารถมีอิทธิพลทางการเมืองได้ ประชาธิปไตยที่แท้จริงประชาชนไม่ใช่มีเพียงเสรีภาพในการออกความเห็นเท่านั้นแต่ต้องมีเวทีที่สามารถแสดงและใช้สิทธิได้อย่างมีพลัง รวมตลอดถึงการใช้สิทธิเลือกตั้งและการสร้างสมดุลทางสิทธิและหน้าที่ด้วย
โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรจากสำนักงานทนายความเรืองยุทธ สุขมะโน นำทนายความในสำนักงานทนายความเรืองยุทธฯพร้อม พ.ต.ท.เกียรติชัย ปอวิจิตรกุล มาให้ความรู้ในเรื่องของสิทธิและหน้าที่ของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และกฎหมายชาวบ้าน โดยเฉพาะสิทธิและหน้าที่ในเรื่องของประชาธิปไตยและด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการที่จะนำไปสู่การดำเนินชีวิตในสังคมอย่างแท้จริง ตลอดจนรณรงค์และส่งเสริมให้มีการดำเนินกิจกรรมที่เสริมสร้างวิถีประชาธิปไตยทุกแห่ง ที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองต่อไป
“การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สมาชิกกรรมการบริหารสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด แม้กระทั่ง ผู้สนับสนุนหรือผู้ที่สนใจ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อป้อง ปรามและขจัดการกระทำหรืองดเว้นการกระทำใดอันจะก่อให้เกิดความไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม จึงได้จัดทำโครงการให้ความรู้ที่เท่าทันเพื่อป้องกันในการกระทำผิดกฎหมายทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข กิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง” นายมนัส กล่าว