ร.ต.อ สหพร ศิริจันโท รองสวป.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทภายในศูนย์กักกันเพื่อสังเกตอาการโรคติดเชื้อโควิด จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นศูนย์กักกัน เพื่อสังเกตอาการโรคติดเชื้อโควิดของ ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน เบื้องต้นพบ น.ส.ธิดารัตน์ นับถือสุข อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 ม.2 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
เจ้าหน้าที่ศูนย์กักกัน เล่าว่า ช่วงเช้าได้มีภรรยาของ นายวิชาญ เจริญรัมย์ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 44 ม.16 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน นำอาหารปรุงสำเร็จมาให้ภายในศูนย์ ตนเอง จึงขอตรวจสอบพบภายในถุง พบว่า มีน้ำพริก ผักลวก แกง และผลไม้ ตนจึงบอกภรรยาของนายวิชาญ ว่าไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปยกเว้นผลไม้เท่านั้น ที่สามาถนำเข้าไปได้ พร้อมทั้งอธิบายว่าที่ศูนย์ฯ มีอาหารให้ 3 มื้อ และแจ้งถึงสาเหตุว่าเนื่องจากก่อนหน้านี้มีญาตินำอาหารมาส่งให้กับผู้ที่โดนกักกันแล้วเกิดอาหารท้องเสีย อาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะน้ำพริก ถึงขั้นนำส่งโรงพยาบาลบ้านด่านมาแล้ว ทำให้นายวิชาญ ไม่พอใจจึงเกิดการโต้เถียงกันลั่นศูนย์กักกัน โดยระหว่างนั้น น.ส.ธิดารัตน์ อ้างว่านายวิชาญ ปรี่ที่จะมาทำร้ายตนตนเองตกใจจึงวิ่งหนีก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
ด้าน นายวิชาญ เล่าว่า ตนเองเดินทางมาจาก จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค ที่ผ่านมา แล้วมากักตัวอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ให้ครบ 14 วัน แต่ละวันกินแต่ข้าวกล่อง รสชาติไม่ถูกปาก จึงโทรศัพท์ไปบอกภรรยาที่บ้านว่า อยากกินน้ำพริก ให้ตำน้ำพริก พร้อมกับผักลวกมาส่งให้ที่ศูนย์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ให้นำน้ำพริกเข้ามา ยอมรับว่า เครียด เพราะตั้งความหวังไว้ว่าจะได้กินน้ำพริกผักลวกอร่อยๆ เหตุผลของเจ้าหน้าที่อ้างว่า กินแล้วจะท้องเสียนั้น ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะคนอีสานกินแต่น้ำพริกมาตั้งแต่เกิด ส่วนหนึ่งรู้สึกผิดที่แสดงพฤติกรรมไม่ดีกับเจ้าหน้าที่ แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของคนกินข้าวกล่องเป็นประจำถ้าเป็นไปได้อยากให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนเมนูอาหารให้กับผู้ประกันเพราะนอกจากจะเครียดจากการถูกกักตัวแล้วยังต้องมาเครียดที่ไม่ได้กินอาหารถูกใจบ้าง