เว็ปไซต์เดลิเมล ของอังกฤษรายงานว่านายฮุสเซน อามีร์-อับดุลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านได้ทวีตข้อความเป็นภาษาฮีบรู ระหว่างเดินทางไปประชุมกลุ่มความร่วมมืออิสลามที่เมืองเจดดาห์ของซาอุดิอาระเบียหลังเกิดเหตุโจมตีโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี ในฉนวนกาซาเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า “เวลาได้หมดลงแล้ว” (Time is Over) สำหรับอิสราเอล
ข้อความเตือนอิสราเอลของรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านมีขึ้นพร้อมๆกับที่สถานทูตอิหร่านในซีเรียออกมาทวีตข้อความในทำนองเดียวกันว่า “Time is Up” ซึ่งแปลว่า “เวลาหมดลงแล้ว” เป็นภาษาฮีบรูเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อิหร่านไม่ได้แจงความชัดเจนถึงความหมายของข้อความดังกล่าว ขณะที่กลุ่มฮิสโบลเลาะห์ในเลบานอนได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มสนับสนุนปาเลสไตน์ออกมาแสดงพลังความโกรธแค้นต่ออิสราเอล โดยเมื่อที่ผ่านมากลุ่มผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาสถานทูตสหรัฐเบรุตของเลบานอนเป็นเวลาสั้นๆ, และที่จอร์แดน กลุ่มผู้ประท้วงหลายสิบคนพยายามจะบุกเข้าไปในสถานทูตอิสราเอล, และที่อิหร่าน กลุ่มผู้ประท้วงก็ลงถนนไปชุมนุมที่ด้านหน้าสถานทูตอังกฤษและฝรั่งเศสที่กรุงเตหะราน
ล่าสุดกลุ่มติดอาวุธจีฮัดได้ออกมาเรียกร้องให้มีการชุมนุมประท้วงที่สถานทูตอิสราเอลและสถานทูตของชาติพันธมิตรทุกแห่งทั่วโลก
ด้านซาอุดิอาระเบียก็ออกมาประณามการโจมตีโรงพยาบาลของอิสราเอลอย่างรุนแรง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ประกาศระงับเจรจาเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์สู่ระดับปกติกับอิสราเอล
จัสติน บรองค์ นักวิเคราะห์ของสถาบันด้านความมั่นคงของสหราชอาณาจักรหรือ RUSI แสดงความวิตกว่าหากอิหร่านเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้ด้วย อาจยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย เพราะรัสเซียอาจเข้าหนุนอิหร่าน และสหรัฐก็อาจโดดเข้าร่วมสงครามเพื่อช่วยอิสราเอลอย่างเต็มตัว
ล่าสุดมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ชี้ว่าอิสราเอลจะต้องนำภาพถ่ายจากดาวเทียมมาพิสูจน์ยืนยันว่าอิสราเอลไม่ได้โจมตีโรงพยาบาลตามที่กล่าวอ้างจริง