ไทยพบ ฟอสซิล "อัลลิเกเตอร์แม่น้ำมูล" มูลเอนซิส แอลลิเกเตอร์ สายพันธุ์ใหม่ของโลก อายุกว่า 2.3 แสนปี
ข่าวที่น่าสนใจ
การค้นพบซากดึกดำบรรพ์อัลลิเกเตอร์สายพันธุ์ใหม่ของโลก อัลลิเกเตอร์ มูลเอนซิส (Alligator munensis) หรือ “อัลลิเกเตอร์แม่น้ำมูล” เกิดจากการที่กรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งจากผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2548 และทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทือบิงเกน ประเทศเยอรมนี นำโดย Dr.GustavoDarlim ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการตรวจสอบซากดึกดำบรรพ์ที่เก็บรักษาไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอโนนสูง พบว่า
- เป็นกะโหลกสัตว์โบราณ 1 ชิ้น
- กรามสัตว์โบราณ 2 ชิ้น
- กระดูกสัตว์โบราณ 5 ชิ้น
นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่บ้านเจ้าของที่ดินใน บ้านสี่เหลี่ยม ต.ใหม่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ซึ่งได้ขุดบ่อเลี้ยงปลา โดยมากเป็นเศษกระดูกแตกหักจนไม่สามารถศึกษาได้
อีกทั้ง ได้ศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์กะโหลกสภาพเกือบสมบูรณ์ของอัลลิเกเตอร์ และพบว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลก คาดว่า มีอายุในช่วงไม่เกินสมัยไพลสโตซีนตอนกลาง หรือประมาณ 230,000 ปีก่อน หรืออาจมีอายุน้อยกว่านั้น
การค้นพบดังกล่าวมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อัลลิเกเตอร์ มูลเอนซิส (Alligator munensis) หรือ อัลลิเกเตอร์ แม่น้ำมูล โดยตั้งชื่อตามแหล่งค้นพบใกล้กับแม่น้ำมูล
ลักษณะของ “อัลลิเกเตอร์ แม่น้ำมูล”
- มีลักษณะคล้ายกับจระเข้ แต่แตกต่างกันตรงที่อัลลิเกเตอร์มีจะงอยปากเป็นรูปตัวยู ในขณะที่จระเข้มีจะงอยปากเรียวแหลมเป็นรูปตัววี
- ลักษณะเด่นเมื่อเทียบกับอัลลิเกเตอร์ชนิดอื่น คือ
- มีจะงอยปากกว้างและสั้นกว่า
- มีกะโหลกสูงกว่า
- มีตำแหน่งรูจมูกอยู่ห่างจากปลายจะงอยปาก
- มีการลดจำนวนเบ้าฟันลงและมีเบ้าฟันขนาดใหญ่ขึ้นบ่งบอกว่ามีฟันขนาดใหญ่ใช้สำหรับกินอาหารที่มีเปลือกแข็ง เช่น หอยน้ำจืดชนิดต่าง ๆ
- จากขนาดกะโหลกคาดว่ามีขนาดทั้งตัวยาวประมาณ 1 – 2 เมตร
- นอกจากนี้ ยังพบว่าลักษณะกะโหลกใกล้เคียงกับอัลลิเกเตอร์จีนในปัจจุบัน (Alligator sinensis) แสดงให้เห็นว่า อัลลิเกเตอร์ทั้ง 2 ชนิดอาจมีบรรพบุรุษร่วมกันระหว่างลุ่มน้ำแยงซีและลุ่มน้ำแม่โขง-เจ้าพระยา
แต่การเกิดธรณีแปรสัณฐานทำให้เกิดการยกตัวของที่ราบสูงธิเบต ส่งผลให้เกิดการแยกประชากรทั้ง 2 ชนิดออกจากกัน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้อัลลิเกเตอ ร์แม่น้ำมูลเกิดการสูญพันธุ์ไปก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง