ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (21 ต.ค.66) ครอบครัวนายสันติ บุญพร้อม อายุ 35ปี แรงงานไทยในอิสราเอลที่คาดว่าถูกจับเป็นตัวประกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมแล้ว 14วันมาจนถึงตอนนี้ ต่างเป็นห่วงสมาชิกในครอบครัวที่ยังไม่สามารถติดต่อนายสันติได้ และญาติยังไม่สามารถติดต่อได้มาจนถึงขณะนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
น.ส.กัญญพัชร แรกไธสง อายุ35ปี ชาวบ้าน บ้านหนองจิก ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ภรรยานายสันติ เล่าว่า ตอนนี้ติดต่อได้เพียงเพื่อนของสามี ที่ประสบเหตุด้วยกันตอนถูกฝ่ายกองกำลังฮามาส บุกเข้ามาจับตัวแรงงานไทยไปทั้งหมด 10 คน ปล่อยออกมาทีละคน เหลือสามีของตนซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานกับลูกน้องรวม 2 คนมาจนถึงวันนี้ยังไม่สามารถติดต่อสามีได้
น.ส.กัญญพัชร เล่าด้วยว่า สามีไปทำงานด้านการเกษตรที่อิสราเอล ครบ 6 ปีในวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา จริงแล้วสามีตั้งใจจะไปทำงานแค่ 5 ปีตามสัญญาแต่นายจ้างเลื่อนขั้นให้เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบงานมากขึ้น นายจ้างขอให้อยู่ต่อแล้วจะให้โบนัสเพิ่ม จึงอยู่ช่วยนายจ้างไปก่อน ปกติสามีจะโทรศัพท์คุยกันตลอดแทบทุกวัน และสัญญาว่าจะกลับมาตั้งตัวที่เมืองไทยหลังวันที่ 18 ต.ค.นี้หรืออย่างช้าก่อนปีใหม่อย่างแน่นอน ตอนนี้ครอบครัวเป็นห่วงมาก
ส่วนหนึ่งดีใจที่รายชื่อผู้เสียชีวิตไม่มีชื่อของสามีรวมอยู่ด้วยแต่เสียใจที่ไม่มีรายชื่อของสามี ทั้งเป็นผู้บาดเจ็บหรือเป็นผู้สูญหายได้แต่เฝ้าคอยดูข่าวทางทีวี เผื่อจะมีรายชื่อปรากฏ จึงอยากจะให้รัฐบาลเร่งหาทางช่วยเหลือตัวประกัน เพราะมั่นใจว่าสามีตกเป็นตัวประกัน
ด้านนางจูมศรี แรกไธสง อายุ64ปี แม่ยายแรงงานไทย เล่าว่า ทุกคนเป็นห่วงเพราะอยากจะให้กลับเมืองไทย ตอนนี้ได้แต่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภาวนาให้ลูกเขยปลอดภัยกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เขาจะเป็นยังไง ไม่มีชื่อสามีเฮา คือว่า ไม่มีชื่อ ถูกจับหรือไม่ แต่ก็ดีใจอยู่ไม่มีชื่อเสียชีวิต แต่เพื่อนที่ทำงานด้วยก็บอกว่าถูกจับ เราก็เชื่อว่าถูกจับ เราก็ดูข่าว เขาจะปล่อยตัวประกัน ภาวนาว่าให้เขาปล่อยเร็วๆ หนึ่งในนั้นก็ขอให้มีแฟน คือติดต่อไม่ได้ ได้แต่ถามเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าถูกจับ ถามเพื่อนอยู่ว่า ถูกยิงหรือเปล่า บาดจํบหรือไม่ หมู่ก็บอกว่าถูกไป กรมแรงงานส่งมาก็ไม่มีชื่อ ชื่อบาดเจ็บก็ไม่มี เสียชีวิตก็ไม่มี เฮาก็ใจไม่ดี คิดว่าขอให้ใน 200 คน ให้มีชื่อแฟน ก็รอทุกมื้อ จน 14 มื้อก็ยังเงียบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
