ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่าเมื่อ วันที่ (22 ตุลาคม 2566) เวลา 15.00 น. ที่ ศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ อาคาร 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” และน้องๆเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ คณะกรรมการ ตลอดจนครูพี่เลี้ยง ที่ร่วมกิจกรรมกว่า 400 คน โอกาสนี้ ประธานได้ร่วมรับฟังการเสวนา ในหัวข้อ “แลกเปลี่ยนเรียนรู้ บินหลาโบยบินจากถิ่นใต้ สู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา” ตัวแทนจากเยาวชนทั้ง 5 จังหวัด จากนั้น ได้กล่าวให้โอวาทและข้อคิดแก่เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม “ค่ายประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเรียนรู้วิถีชุมชนพหุวัฒนธรรม” โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่น 41 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและประทับใจ
ผู้ว่าฯอยุธยา ต้อนรับ พลเอก สุรยุทธ์ฯ ร่วมฟังการเสวนาและให้โอวาทแก่เยาวชน ค่ายประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเรียนรู้วิถีชุมชนพหุวัฒนธรรม โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่น 41 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2566 ประกอบด้วย 4 กิจกรรมย่อย เริ่มต้นด้วยกิจกรรมการนำเยาวชนทัศนศึกษาสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ วัดไชยวัฒนาราม โบสถ์ยอแซฟ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา วัดพระศรีสรรเพชญ์/พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง วัดมหาธาตุ อนุสรณ์สถานเจ้าพระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด) วัดบรมพุทธาราม และพระราชวังบางปะอิน กิจกรรมการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “วัฒนธรรมจากคาบสมุทรมลายูสู่กรุงศรีอยุธยา” กิจกรรมการเสวนาในหัวข้อ“แลกเปลี่ยนเรียนรู้ บินหลาโบยบินจากถิ่นใต้ สู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา” และการเรียนรู้การฝึกอาชีพพื้นเมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3 ฐานการเรียนรู้ ประกอบด้วย การทำโรตีสายไหม การสานปลาตะเพียน และการตัดพวงมโหตร เป็นต้น กิจกรรมย่อยดังกล่าวจะทำให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของท้องถิ่น อันจะช่วยสร้างความภาคภูมิใจและจิตสำนึกของความรักชาติ มีความเข้าใจรากเหง้า ความเป็นวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันของคนในสังคมพหุวัฒนธรรม มีการแบ่งปัน เกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความรู้ ความเข้าใจ บริบทของสังคมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อต้องการให้เยาวชน ได้ศึกษาเรียนรู้ เยี่ยมชม ความเก่าแก่ ความโบราณของบ้านเมืองพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอื่นๆ เพื่อให้ตระหนักรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นที่รวมพล รวมใจ และเทคโนโลยี มีทั้งความร่วมมือ ความรัก ความสามัคคี นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองให้เยาวชนได้เห็น อดีตจะสอนให้เรารูจักปรับตัวเพื่อต่อสู้กับอนาคต ดังนั้น เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมและร่วมกันสานสัมพันธ์ความสามัคคี ส่งผลให้เกิดความเข้าใจและสามารถพัฒนาตนเองให้เติบโตขึ้นเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพในอนาคต
ซึ่งตัวแทนเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ บอกว่าในการศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชุมชนพหุวัฒนธรรม ในครั้งนี้ ได้เรียนรู้สิ่งดีๆมากมาย กับครอบครัวอุปถัมภ์ “เหมือนเป็นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีงาม เพื่อไปขยายพันธุ์เติบโตให้สวยสดงดงามที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้”
เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าวTOPNEWS ภาคกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง