“วิรังรอง” ยื่นร้องเอาผิด “เศรษฐา” แจกเงินดิจิทัล ขัดรัฐธรรมนูญ ม.62

"วิรังรอง" ยื่นร้องเอาผิด "เศรษฐา" แจกเงินดิจิทัล ขัดรัฐธรรมนูญ ม.62

วันที่ 26 ต.ค. 66 ที่กระทรวงการคลัง นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ชะลอนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะขัดต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศ เป็นการสร้างหนี้ให้กับประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังมาเป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้

นางวิรังรอง ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ต้องมายื่นคัดค้านให้ชะลอโครงการดังกล่าว ว่า ต้องการให้ยกเลิกโครงการนี้ เพราะไม่เท่าเทียม เหลื่อมล้ำ ประโยชน์ทับซ้อน อีกทั้งยังผิดในกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 62 รัฐมีหน้าที่รักษาวินัยการเงินการคลังเพื่อให้ประเทศมีศักยภาพยั่งยืน แต่การกระทำของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถือว่าเป็นการนับหนึ่งของการเริ่มโครงการ ตนในฐานะประชาชนที่เสียประโยชน์เห็นว่านโยบายนี้ทำให้เกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจ จึงมาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญหมวด 5 มาตรา 51 ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการดำเนินการของรัฐและสามารถฟ้องร้องได้

ดังนั้น เมื่อรัฐไม่ทำตามหน้าที่ ตนจึงมายื่นเรื่องร้องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ตนใช้สิทธิฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญต่อหน่วยงานของรัฐที่ทำให้เสียประโยชน์ กระทรวงการคลังจะต้องให้คำตอบภายใน 90 วัน ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และหากกระทรวงการคลังไม่เห็นด้วยตนก็มีเวลาอีก 30 วันที่จะโต้แย้ง สามารถไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นการทำงานแบบคู่ขนานกัน หากผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องวินิจฉัย จะนำเรื่องส่งไปให้คณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาเรื่องนี้และแจ้งกลับมาที่ตน จะทำให้ตนจะมีสิทธิในการที่จะร้องเรียนถึงศาลรัฐธรรมนูญ และศาลจะมีเวลาอีก 120 วันในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งสามารถจะทำให้รัฐหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่า เพราะอะไรโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการหรือสร้างแรงกระเพื่อมให้กับธุรกิจได้ นางวิรังรอง เผยว่า ธุรกิจหมุนเวียนของบริษัทห้างร้านใหญ่กว่าชาวบ้าน ในยุค นายกลุงตู่ ใช้แอพพลิเคชั่นกระเป๋าตังค์เป็นเงินสด ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ประชาชนเข้าร่วมโครงการเยอะ รัฐบาลต้องชี้แจงให้กับประชาชนที่ออกมาร้องเรียน แต่ตนต้องการที่จะเข้าใจว่านโยบายดังกล่าวจะสามารถหมุนเวียนได้จริงหรือไม่ ในเมื่อมีระยะใช้เพียง 4 กิโลเมตร หรือต้องการให้ธุรกิจขนาดใหญ่ได้หมุนเวียนแบบเงินเชื่อ เอาของมาแต่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน

“ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่การกระจายรายได้ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม ธุรกิจขนาดใหญ่ได้โอกาสแต่ประชาชนขาดโอกาส”

 

 

ส่วนมาตรการคัดเลือกผู้ที่มีสิทธิรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ผู้มีรายได้น้อยก็จะมีการลงทะเบียน ผู้ที่มีรายได้มากก็ไม่ต้องลง นี่คือข้อจำกัด จะใช้เกณฑ์เงินเดือนเป็นมาตรฐานวัดคนรวยไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีภาระหน้าที่ที่แตกต่างกัน นี่คือเรื่องละเอียดอ่อนที่รัฐบาลต้องหามาตรการที่เหมาะสม แต่การเลิกทำโครงการนี้ ไม่ใช่เลิกทำเพราะไม่เห็นหัวประชาชนแต่ไม่ใช่ทุกคนที่อยู่ในระบบภาษี รัฐมีหลักประกันอะไรว่าประชาชนจะได้เงินเมื่อครบหกเดือน

เมื่อถามว่า โครงการนี้สนับสนุนธุรกิจนายทุนหรือไม่ นางวิรังรอง ชี้ว่า ดูเสมือนอย่างนั้น ไม่อยากมองแง่ลบว่ารัฐบาลทำเพื่อนายทุน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหาเสียงว่าจะแจกเงิน จนตอนนี้เป็นรัฐบาล ผ่านมากี่เดือนโครงการยังไม่มีรายละเอียด แสดงว่ายังไม่มีความพร้อม จะมาโทษผู้คัดค้านไม่ได้ในเมื่อนายกฯ บอกว่าไม่ได้สนใจผู้คัดค้าน แต่รัฐบาลไม่มีความพร้อมและทำไม่ได้เอง อีกทั้งโครงการดังกล่าวจะเริ่มเดือนกุมภาพันธ์ แต่ตอนหาเสียงไม่ได้บอกไว้ว่าโครงการใช้เมื่อไหร่ เมื่อถึงที่สุดแล้วรัฐบาลจะต้องทบทวนถึงผลดีผลเสียและแง่กฎหมาย เหมือนเอาขาข้างหนึ่งไปอยู่ในคุก

 

 

“หวังว่าฝ่ายค้านรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่เห็นด้วยจะออกมาคัดค้าน แสดงจุดยืน อยากสนับสนุนให้นำเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภค การศึกษา ให้ผู้มีรายได้น้อยได้เรียนเฉพาะทางประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้ รัฐบาลควรเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ามากกว่า ไม่ควรเอาเงิน 560,000 ล้านบาท ไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ“

โครงการเงินดิจิตอลจะทำให้ระบบการเงินการคลังของประเทศเสียหายหนักกว่าโครงการจำนำข้าวหรือไม่ นางวิรังรอง ยืนยันว่า หนักกว่า ของเก่ายังใช้หนี้ไม่หมด รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ เหมือนมัดมือชกให้เอาเงินของประชาชนที่เก็บสะสมไว้ในธนาคารมาให้รัฐบาลกู้ และอาจจะเชื่อมโยงไปถึงการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อมีหนี้สาธารณะ ประชาชนที่เสียภาษีคือผู้ใช้หนี้ รัฐบาลควรดูระดับโครงสร้างไม่ใช่ใช้เพียงนโยบายเท่านั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฉาว "ชาวบ้าน" ยันเห็น "หลวงตา" ล็อคห้องอยู่กับสีกา สองต่อสอง อ้างชวนไปนับขวด ก่อนเผ่นหนีไปอยู่อีกวัด
5 วิลล่าที่ดีที่สุด บนเกาะสมุย สำหรับการพักผ่อนสุดหรู
ผุดไอเดีย สุดเจ๋ง ติดตั้งนวัตกรรมประดิษฐ์รั้วไฟฟ้าแรงต่ำ 12 โวลท์ ป้องกันภัยช้างป่า
ปราบปราม เด็กแว้นอันธพาลครองเมือง
จบด้วยดี!! ปัญหาเงินทอดกฐินกว่า 1 ล้านบาท ”วัดหนองนกเมืองคอน” จบชื่นมื่น
พบเด็กแฝดตาสีฟ้า แม่ยอมรับรู้สึกท้อ ลูกถูกล้อเลียน ซ้ำมิจฉาชีพนำรูปไปแอบอ้างเปิดรับบริจาค
"ทนายเดชา" เชื่อ "ทนายตั้ม" พร้อมสู้คดี เคยพูดคุยมีหลักฐานแชทสนทนา
ททท.โคราช ชวนสัมผัส “เทศกาลเที่ยวพิมาย 2567” ตื่นตาตื่นใจการแสดงแสง สี เสียงเทคนิคพิเศษสุดตระการตา
“ออยศรี” เข้าให้ข้อมูลคดีของทนายตั้ม เจ้าตัวเชื่อ “เจ๊อ้อย” ไม่ได้ให้เงินด้วยความเสน่หา
กล้าล้วงคองูเห่า!! แก๊งมิจฉาชีพอ้างชื่อผู้การฯเมืองคอนโทรหลอกนักข่าวใหญ่ขอความช่วยเหลือยืมเงิน 36,000 บาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น