สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
บอร์ดอีวี ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 ในช่วงระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2567 – 2570) เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ และสนับสนุนให้เกิดการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ EV3 สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการใหม่นี้เพิ่มเติมได้ โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของแต่ละมาตรการด้วย
ย้อนดู มาตรการ EV 3.0 ที่มอบส่วนลดสูงสุดให้กับผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการ โดยส่วนลดสูงสุดที่ได้คือ 1.5 แสนบาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 อย่างไรก็ตาม บอร์ดอีวี เมื่อ 1 พ.ย.66 ได้เห็นชอบให้กรมสรรพสามิต ขยายเวลาการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV 3 จากเดิมที่ต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ให้ขยายเวลาเป็นต้องจำหน่ายภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 มกราคม 2567 เพื่อให้ผู้บริโภคที่จะตัดสินใจซื้อยานยนต์ไฟฟ้าภายในงาน Thailand International Motor Expo ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน -11 ธันวาคม 2566 ยื่นจดทะเบียนได้ทันภายในเดือนมกราคม 2567
โดยหากเปรียบเทียบกับมาตรการ EV 3 กับ EV 3.5 พบว่า EV 3.5 มีการปรับเกณฑ์ใหม่ทั้งขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น แต่เงินอุดหนุนลดลง โดยของเดิม EV 3 ให้เงินอุดหนุนตั้งแต่ 18,000 – 150,000 บาท