สำนักข่าว AFP รายงานว่า คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (หรือ ICRC) ได้กล่าวว่า ขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมที่บรรทุกเวชภัณฑ์ในการช่วยชีวิต ถูกยิงในกาซาซิตี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเป็นขบวนรถบรรทุก 5 คัน และรถกาชาด 2 คัน ที่กำลังขนส่งสิ่งของไปยังสถานพยาบาล ในตอนที่เกิดเหตุ รถบรรทุก 2 คันได้รับความเสียหายและมีคนขับ 1 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ด้านนายวิลเลียม ชอมเบิร์ก หัวหน้าคณะผู้แทนย่อยฉนวนกาซาของ ICRC ได้กล่าวว่า เนื่องจากความท้าทายด้านความปลอดภัยบนท้องถนนของ ICRC ที่มีรถบรรทุกคันหนึ่งของ ICRC ได้รับผลกระทบ และมีคนขับได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทำให้เราไม่สามารถดำเนินการตามแผน ตามที่ตั้งใจเอาไว้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เงื่อนไขที่นักมนุษยธรรมสามารถทำงาน เพื่อตอบสนองความต้องการที่จำเป็นเร่งด่วน ของประชาชนพลเรือนได้ ทั้งนี้ นักมนุษยธรรม โรงพยาบาล และพลเรือนจะต้องได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ขณะที่ดร. ทอม โปโตการ์ หัวหน้าศัลยแพทย์ของ ICRC ก็ได้กล่าวว่า เรายังคงรับคนไข้อยู่ทุกวัน มีคนอาการบาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก ที่ต้องเข้ารับการรักษา และเราก็ใช้เวลานานในการรักษา ตอนนี้สิ่งของกำลังขาดแคลนจริงๆ ทั้งผ้าปิดแผลโดยเฉพาะสำหรับแผลไฟไหม้ ยาชาและยาแก้ปวด ก็กำลังจะหมด เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ทรุดโทรมลงมาก สภาพความเป็นอยู่ก็แย่มากด้วย เรื่องพื้นฐานเช่นอาหาร ก็ไม่ค่อยมี ไฟก็ดับ ตอนเย็นๆ จะติดต่อกันลำบาก และขาดความต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่ได้เดินทางมาเยือนอียิปต์เพื่อติดตามสถานการณ์ในภูมิภาค ซึ่งนอกจากจะประณามถึงการกระทำของทั้งอิสราเอลและฮามาสว่า ต่างเป็นอาชญกรรมสงครามแล้ว เติร์กก็ยังได้กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ตกลงหยุดยิงในตอนนี้ โดยมีความจำเป็นด้านสิทธิมนุษยชน 3 ประการ ได้แก่ การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่เพียงพอแก่ฉนวนกาซา, การปล่อยตัวตัวประกัน, และการดำเนินการยุติการยึดครองที่ยั่งยืน ซึ่งในบริบทของการยึดครองมา 56 ปีนั้น สถานการณ์นี้ถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดที่เราเผชิญ สำหรับทั้งผู้คนในฉนวนกาซา, ในอิสราเอล, ในเวสต์แบงก์, และยังรวมถึงในระดับภูมิภาคด้วย