จับตาคดีสายพานลำเลียง สุวรรณภูมิ ผลสอบถึงมือประธานป.ป.ช.แล้ว

จับตาคดีสายพานลำเลียง สุวรรณภูมิ ผลสอบถึงมือประธานป.ป.ช.แล้ว

สืบเนื่องจากการที่ภาคเอกชนได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.2563 เพื่อร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ การปฏิบัติหน้าที่ของอดีตประธานคณะกรรมการและอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ AOT เกี่ยวกับการประกวดราคาจ้างเอกชนปฏิบัติการและซ่อมบำรุงรักษาระบบลำเลียงสัมภาระในอาคารผู้โดยสารหลัก และระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบินภายในอาคารปฏิบัติกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยวิธีการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยระบุรายละเอียดพร้อมหลักฐาน แสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส การประมูลดังกล่าว

ขณะที่ตามไทม์ไลน์ของกรณีดังกล่าว พบข้อมูลดังนี้

1.วันที่ 20 พ.ค. 2565 ผู้ร้องเรียนได้ยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าต่อป.ป.ช.ครั้งที่ 1

2.วันที่ 15 ส.ค. 2566 สำหรับการติดตามความคืบหน้าครั้งที่ 2

3.วันที่ 12 ต.ค.66 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุกับทีมข่าว TOP NEWS ว่า จากคำร้องเรียนมีการสรุปรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถชี้แจงได้ ว่าคำร้องดังกล่าวมีมูลหรือไม่ แต่มีการสรุปรายละเอียดเตรียมพร้อมเสนอคณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อพิจารณาแล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด วันนี้ ( 29 พ.ย.66) นายนิวัติไชย เลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยกับ TOP NEWS ถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบ จริง ๆ แล้วกรณีการประมูล ระบบลำเลียงสัมภาระภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการร้องเรียน 2 เรื่อง คือ เรื่องการจัดซื้อ และ จัดซ่อม สายพานลำเลียงสัมภาระ ซึ่งในระบบขั้นตอนดำเนินการ แจ้งว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จริงของทางสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ขณะที่อีกเรื่องตามคำร้องเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2563 เกี่ยวกับการประมูลว่าจ้างเอกชนปฏิบัติการและซ่อมบำรุงรักษาระบบลำเลียงสัมภาระในอาคารผู้โดยสารหลัก และระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบินภายในอาคารปฏิบัติกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบิน ซึ่งเคยประมาณการณ์เรื่องกรอบเวลาจะชัดเจนในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2566

 

นายนิวัติไชย ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการสรุปข้อมูลเสร็จแล้ว ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของประธานฯ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นคนตัดสินใจเรื่องวาระการประชุมว่าจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเมื่อใด

 

ส่วนกรณีที่ถูกมองว่ามีความล่าช้าหรือไม่ นายนิวัติไชย ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ได้มีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนสรุปเข้าสู่การพิจารณาของประธาน ป.ป.ช. ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้คือ 3 ปี ส่วนประธานฯ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเมื่อใดนั้น ไม่สามารถทราบได้ ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประธาน โดยไม่คิดว่าความล่าช้าจะส่งผลกระทบกับผลการพิจารณา เพราะถ้าคณะทำงานตรวจสอบ ใช้เวลาเกินกรอบกำหนด แล้วต้องพ้นอำนาจของเจ้าหน้าที่ กระบวนการพิจารณายังคงเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป.ป.ช.ในการพิจารณารับผิดชอบต่อไปได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น