“อัยการ” ฟ้อง “กำนันนก” จ้างสังหารตำรวจทางหลวง ไม่ฟ้องอดีตผกก.สน.พญาไท พร้อมพวกรวม

อัยการสั่งไม่ฟ้อง อดีต ผกก.สน.พญาไท กับพวก รวม 5 คน ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปมไม่ช่วยเหลือสารวัตรศิว ส่วน ผกก.เบิ้ม ไม่มีชื่อเกี่ยวในคดี

นายประยุทธ เพชรชคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันเปิดเผยผลการพิจารณาคดีสั่งฟ้องนายปวีณ จันทร์ทร์คล้าย หรือ กำนันนก โดยแบ่งเป็น 2 สำนวน ได้แก่ คดีฆาตกรรม พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ซึ่งมีผู้ต้องหาคือ นายหน่อง หรือธนันชัย หมั่นมาก ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ และกำนันนก โดยอัยการสำนักงานคดีอาญา มีความเห็นให้สั่งฟ้องกำนันนก ตามที่พนักงานสอบสวนเสนอมาส่วนนายหน่อง เนื่องจากถูกวิสามัญจึงมีคำสั่งยุติคดี

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนสำนวนที่ 2 ซึ่งเป็นสำนวนกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือน รวม 28 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ขณะที่มีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ในความเกี่ยสกับการปฏิบัติหน้าหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีความเห็นสั่งฟ้องตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข กับพวก และพลเรือน รวม 23 คน ในข้อหาแตกต่างกันไป ซึ่งรวม 6 คนแรกที่ถูกจับดำเนินคดี โดยเป็นกลุ่มที่ขับรถพากำนันนกหลบหนี และมีการทำลายพยานหลักฐาน ส่วนพลเรือน โดนข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด รวมถึงกำนันนกด้วย

ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพนักงานอัยการได้นำตัวตำรวจและพลเรือนรวม 23 คน ไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว โดย นายประยุทธ ยังยืนยันว่ากำนันนกถูกฟ้อง ทั้ง 2 ศาล คือศาลอาญาและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยอัยการจะมีการเสนอศาลให้นับโทษทั้ง 2 สำนวนต่อกันซึ่งขึ้นอยู่กับที่ศาลใดจะตัดสินคดีใดก่อน

อย่างไรก็ตามยังมีตำรวจ 5 นาย ที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ได้แก่ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร อดีต ผกก.สน.พญาไท ,ร.ต.อ. ณัฏฐพล นาคกร ,พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ , พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล และร.ต.ท.มนัต จันทร์มีทรัพย์ สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากทางพนักงานอัยการเห็นว่าจัดอยู่ในกลุ่ม ที่มีการเคลื่อนไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นพาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหรือสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆไม่ได้นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

นายประยุทธ เผยอีกว่า ความเห็นนี้ยังถือว่ายังไม่เด็ดขาด เนื่องจากที่ต้องนำตัวผู้ต้องหาและสำนวนสั่งฟ้องในวันนี้เพราะว่าเป็นวันสุดท้ายในการฝากขังแต่หากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางรายก็จะต้องเสนอเรื่องไปที่ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มีความเห็นทางคดี โดยหากเห็นแย้งความเห็นของอัยการ ก็จะถูกส่งต่อให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยชี้ขาด จึงจะถือว่า เป็นคำสั่งเด็ดขาด ซึ่งถ้าอัยการสูงสุด มีความเห็นให้สั่งฟ้องตำรวจทั้ง 5 นาย ที่เดิมที่สั่งไม่ฟ้องในครั้งนี้ก็สามารถนำตัวตำรวจทั้ง 5 นายกลับมาดำเนินคดีได้ภายในอายุความ 20 ปี

ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องและไม่ถูกฟ้องในเนื้อสำนวนทางพนักงานอัยการไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน รวมทั้งพ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ไม่มีรายชื่อเป็นผู้ต้องหาในสำนวนของพนักงานสอบสวนที่ส่งมาให้อัยการตั้งแต่แรก แม้จะอยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าวก็ตาม ซึ่งทางอัยการไม่ขอก้าวล่วง และไม่ทราบรายละเอียดในประเด็นนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ปคบ.หอบสำนวน 7000 หน้า ส่งฟ้องคดีหลอกขายทอง “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ให้กับอัยการแล้ว
10 บริษัทโฆษณา ชั้นนำในไทย ที่เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing
"รองผู้การกองปราบฯ" กางกม.เอาผิด "ซินแสชื่อดัง" จ่อโดนคดีฟอกเงิน หลังตุ๋นเหยื่อหลายราย สูญเงินกว่า 70 ล้าน
“สัณหพจน์” เปิดนโยบายแก้เศรษฐกิจปากท้อง ฟื้นฟูท่องเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช เล็งนำช้างแคระคืนถิ่นป่าพรุควนเคร็ง อะเมซอนเมืองไทย
“เจพาร์ค ศรีราชา” จัดพิธีอัญเชิญเทพเจ้าโอคุนินุชิ ประทับในศาลเจ้าโอคุนิ ศาลเจ้าชินโตแห่งที่สามของประเทศไทย
ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย
แม่ค้าขนมครกโอดยอมกัดฟันสู้ หลังราคาน้ำกะทิขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทแต่ยันขายขนมครกราคาเดิมกลัวลูกค้าหด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น