ชาวสวนผลไม้ พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกเทศบาลตำบลชำรากรวมตัวไปที่ฝายคลองบ้านแตง หมู่ 2 คนตำบลชำราก อ.เมือง จ.ตราด กว่า 20 เพื่อตรวจสอบระดับน้ำทะเลที่กำลังขึ้นล้นฝาย แต่พบว่า น้ำทะเลได้ทะลักเข้ามาจากประตูน้ำที่ชำรุดเสียหายจำนวนมาก
โดยที่ชำรุดนั้น อยู่บริเวณประตูฝายซึ่งมีน้ำทะเลใต้ฝายทะลักเข้ามาจำนวนมาก แต่ระดับน้ำทะเลยังไม่สูงเกินสันฝาย แต่ในช่วงดังกล่าวยังไม่ใช่ช่วงที่มีน้ำทะเลขึ้นสูงที่สุด อย่างไรก็ตาม เหลือระดับเพียง 5-10 ซม.เท่านั้น ขณะที่ชาวสวนผลไม้ชำรากรายหนึ่งได้น้ำเครื่องวัดความเค็มของน้ำทะเลใต้ฝายและเหนือฝายมาเทียบกันว่าจะมีค่าเท่าไร?
จากการตรวจความเค็มของน้ำใต้ฝายพบว่า มีค่าของเกลือเท่ากับ 1.50 มิลลิปรอด และเมื่อไปตรวจในพื้นที่เหนือฝายพบว่า มีค่าความเค็มเท่ากับ 0.70 มิลลิปรอทซึ่งแสดงให้เห็นว่า น้ำทะเลที่ทะลักเข้าไปยังพื้นที่เหนือฝายเริ่มมีความเค็มแล้ว แม้ครั้งนี้จะเป็นน้ำกร่อยก็ตาม
นายทวีศักดิ์ แพทย์พิบูลย์ ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า ปัญหาน้ำเค็มล้นฝายเกิดขึ้นมานานแล้ว และได้แจ้งให้ทางเทศบาลชำรากได้แก้ไข เนื่องจากน้ำเค็มได้เข้าไปในคลองบ้านแตงยาวกว่า 500 เมตร และทิ้งร่องรอยไว้เมื่อน้ำทะเลลง ซึ่งทำให้น้ำจืดมีความเค็มและเป็นน้ำกร่อยที่กำลังส่งผลกระทบต่อต้นผไม้ที่กำลังออกดอก เช่น ทุเรียน ซี่งหากปล่อยไว้นานไม่เกิน 10 วันจะส่งผลกระทบในระยะสั้นทำให้ผลไม้ทั้งตายและไม่ออกดอกออกผล ในระยะยาวจะไม่สามารถใช้พื้นที่ทำการเกษตรกรรมได้เนื่องจากดินเค็มและจะแกไขยากมาก แต่เมื่อทางเทศบาบชำรากรับรู้แล้ว ตั้งงบประมาณไว้แล้ว ประชุมร่วมกับทางจังหวัดและทางอำเภอก็สั่งการให้ดำเนินการได้เลยแต่ยังไม่ดำเนินการอะไรเเละอ้างทางสำนักงานฯเจ้าท่าตราดต้องให้ชาวบ้านต้องยินยอมอุทิศที่ดินให้ครบก่อนจีงจะดำเนินการได้
ซึ่งการแก้ปัญหาอาจจะไม่ทันการณ์