เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียกว่า 200 คน พยายามค้นหานักท่องเที่ยวเดินเขาที่ยังสูญหาย 10 ราย หลังภูเขาไฟ มาราปี ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก ปะทุรุนแรง พ่นกลุ่มควันและเถ้าร้อนขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงหลายกิโลเมตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงบ่ายวันนี้ (5 ธันวาคม) พบผู้สูญหายเสียชีวิตใกล้กับปล่องภูเขาไฟเพิ่ม 9 ราย เหลืออีกรายเดียวที่กู้ภัยจะออกค้นต่อในวันพรุ่งนี้ (6 ธันวาคม)
สรุป ถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 22 รายแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่นิติเวช เตรียมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลด้วยประวัติทำฟันและลายนิ้วมือ หรือตำหนิบนร่างกาย เนื่องจากร่างผู้เสียชีวิตถูกความร้อนลวกรุนแรงจนจำไม่ได้
ก่อนหน้านี้ สำนักงานภูเขาไฟอินโดนีเซีย ได้ออกหนังสือแนะนำให้สำนักงานอนุรักษ์ธรรมชาติสุมาตราตะวันตก และกระทรวงสิ่งแวดล้อม ปิดพื้นที่รัศมี 3 กิโลเมตรจากปล่องภูเขาไฟ มาราปี เพราะเป็นพื้นที่อันตราย แต่ขณะเกิดเหตุปะทุรอบล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ ปรากฎว่า มีนักท่องเที่ยวปีนเขา เข้าไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยงถึง 75 คน ส่วนใหญ่อพยพลงมาได้โดยหลายคนถูกเถ้าร้อนลวกผิวหนัง ทางสำนักงานฯระบุว่า ทำได้แค่ประกาศเตือน แต่การบังคับใช้เป็นเรื่องของกระทรวงสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความเห็น
อาห์หมัด รีฟานดี หัวหน้าหน่วยสังเกตการณ์ภูเขาไฟมาราปี บอกสำนักข่าว AFP เมื่อวาน ว่าภูเขาไฟมาราปี ยังคุกรุ่นอยู่มาก ตั้งแต่เที่ยงคืน ถึง 8 โมงเช้า ปะทุ 5 ครั้ง แต่เขามองไม่เห็นความสูงของกลุ่มควันแล้วเพราะถูกเมฆปกคลุม การปะทุเป็นระยะทำให้การกู้ภัยต้องสะดุดเป็นช่วง ๆ
มาราปี เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมากที่สุดบนเกาะสุมาตรา และการปะทุเมื่อวันอาทิตย์ ถือเป็นครั้งมรณะที่สุด นับจากการปะทุในปี 2522 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 60 คน
Indonesian rescuers evacuating the body of a hiker amid ongoing eruptions at Mount Marapi. So far, five bodies have been brought down to the base of the volcano. (Video : Basarnas) pic.twitter.com/pqsnbNU608
— Saifulbahri Ismail (@saifulCNA) December 5, 2023