ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ถูกกล่าวหามีส่วนล็อบบี้ส.ส. ในพรรคพลังประชารัฐและพรรคเล็กโหวตตั้งนายกรัฐมนตรี ว่า ก่อนอื่น ขอพูดในฐานะพูดกับสื่อมวลชนที่ได้ทำงานร่วมกันมาเข้าปีที่ 3 แล้ว ซึ่งตนชื่นชมสื่อมวลชนเกือบทุกสำนัก ที่นำเสนอข่าวด้วยความเป็นกลางแต่ขอฝากถึงสื่อมวลชนสำนักหนึ่งว่าให้รู้จักจิตสำนึกและจริยธรรมของการเป็นสื่อด้วยในการนำเสนอข่าวต่างๆซึ่งมีสื่อสำนักหนึ่งพยายามที่จะ อ้างชื่อผมไปพูดในทางเสียหายคิดเองเออเองเขียนเองโดยไม่ฟังเสียงประชาชนที่เดือดร้อนกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ไปเขียนชื่นชมใครบางคนจึงขอฝากไปถึงสำนักข่าวนี้ที่พึ่งแยกตัวออกมา และล่าสุดได้ยื่นฟ้องสื่อสำนักนี้แล้วที่จังหวัดพะเยา
ซึ่งในข้อเท็จจริงข่าวลือในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้นไม่เคยสนใจใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ซึ่งได้พูดมาเสมอว่าผมมาถึงทุกวันนี้จากลูกชาวนาเด็กบ้านนอกคนจนเมื่อมาถึงเวลานี้ได้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองเพื่อพี่น้องประชาชนถือว่าชีวิตผมสูงสุดแล้ว ส่วนที่เหลือ ขอรับใช้พี่น้องประชาชนรับใช้แผ่นดินก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะทำอะไรเพื่อบ้านเมืองและประชาชนตลอดกาลจะมาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในรัฐบาลในครม.เดียวกัน ไม่ใช่พฤติกรรมของผม
ซึ่งตั้งแต่วันที่ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐในการประชุมใหญ่ที่จังหวัดขอนแก่น ตนได้เคยบอกว่าจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนซึ่งก็จะทำต่อไปหากมีโอกาส ซึ่งข่าวลือว่าผมจะทำนั่นทำนี่ไม่เป็นความจริง มีแต่ขาวที่ได้ยินขณะที่ตนได้เดินทางลงพื้นที่เปิดโครงการปลูกฟ้าทะลายโจรที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีส.ส.หลายคน โทรศัพท์มาสอบถามว่ามี มีหัวหน้าพรรคเล็กพรรคหนึ่งเสนอรับเงินผลประโยชน์ต่างตอบแทนจำนวน 10 ล้านบาท
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นมีรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐรับงานมาล็อบบี้ส.ส. เพื่อไทยและสส. ประชาธิปัตย์พรรคพลังประชารัฐในการสนับสนุนคนใดคนหนึ่งถามกลับว่าการเป็นรัฐมนตรีสมควรที่จะกระทำอย่างนั้นหรือไม่คุณควรเห็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองไม่ต้องใครที่ไหน 4ช.ที่ว่า เหมือนบางคนฝากไปบอกเขาด้วยว่าทำอะไรเพื่อบ้านเพื่อเมืองบ้างอย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อของตนถูกโยง อยู่ในขบวนการล้มนายกรัฐมนตรีนั้น ร.อ.ธรรมนัส ระบุชัดเจนว่าเสียงของส.ส. 1เสียง มาจากประชาชนสจึงรู้จักคิดรู้จักทำว่าจะทำอะไร ไม่มีใครสามารถครอบงำได้ มติพรรคให้ทำนู้นทำนี้ไม่สามารถไปบังคับได้เพราะผิดรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐไม่มีอย่างนั้น ซึ่งเมื่อใครถามตนก็ให้ไปดูแล้วกัน และตัดสินใจเอง ยืนยันว่าผมไม่ได้ถูกใช้ให้มาล็อบบี้ใครไม่ว่าจะให้ช่วยเหลือรัฐบาลหรือระดมพรรคอื่นให้มาโหวตคว่ำใคร ซึ่งส่วนตัวรู้จักทุกพรรคส.ส.พรรคเล็กมานั่งพูดคุยกันเป็นปกติ และส่วนตัวไม่เคยคิดที่ส.ส.ต่างพรรคต่างความคิดต้องเป็นศัตรูกัน เป็นพี่เป็นน้องกันทั้งหมด
แม้กระทั่งในพรรคผมถูกกระทำยังไง ผมไม่เคยโทษ คิดกับตัวเองเสมอว่าจะนำมาปรับปรุงอย่างตัวเอง เขาจะด่าเรายังไง พร้อมถามว่าในครม. มีใครโดนหนักเท่าผมบ้างถามหน่อย และไม่กี่วันที่ผ่านมามีม็อบบุกไปที่บ้านพักของผมมีใครโดนเหมือนผมบ้าง และเคยเห็นผม บ่นหรือแหกปากสักคำไหม ผมไม่ใช่เป็นสัตว์ประเภทที่โดนเหยียบหางหน่อยแล้วแหกปาก
ส่วนขบวนการที่กล่าวมามีหรือไม่มีต้องไปถามคนที่เต้าข่าว ที่ไม่ใช่มาจากพรรคฝ่ายค้านแต่มาจากพรรครัฐบาลนี่เองไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลายชอบเลียแข้งเลียขาสำเหนียกเสียบ้าง ซึ่งตอนนี้ผมรู้หมดว่ามีใครบ้างบันทึกเทปไว้ทั้งหมดเดี๋ยวเจอกัน
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่าต้องถามกลับไปถึงท่านให้ท่านโหนว่าคุณทำเหมือนผมไหมนำนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรีนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเพื่อชาติบ้านเมืองคุณทำบ้างไหมมัวแต่ห้อยแต่โหนอย่างนี้ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร
โดยกับนายกรัฐมนตรีนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกันแต่จะคุยผ่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค และได้คุยกันทุกวันซึ่งในวันที่ 30 สิงหาคมที่มีการประชุมพรรคพลังประชารัฐที่ผ่านมา ถามว่า ได้ยินจากปากผมหรือไม่ที่พูดถึง ว่าต้องการเลื่อยขาเก้าอี้มท.1 ซึ่งตนได้พูดว่าส.ส. ในพรรคอึดอัด และรัฐมนตรีที่นั่งตรงนี้มีผลงานไปบอกกับส.ส.ให้ไปบอกกับชาวบ้านหรือไม่ ว่านี่คือผลงานของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นส.ส.มาเกือบ 3 ปีแล้วทำอะไรเพื่อชาวบ้านบ้างแต่ส.ส.ตอบมาว่าไม่มี มีหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว คนเป็นตัวแทนของ ปวงชนชาวไทยหากไม่เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ผมว่าอย่าเป็นดีกว่าส.ส. และถ้ายังไม่เคลียร์สำหรับตัวผมเองผมพร้อม กลับไปเป็นส.ส.อย่างเดียวผมไม่สนใจเลย
ร.อ.ธรรมนัส เปิดใจว่าผมพูดเสมอว่าผมไม่โกรธใครไม่แค้นใครแต่ผมจำนาน และพี่น้องร่วมอุดมการณ์ผมมีเยอะไม่ต้องห่วง
เมื่อสอบถามว่าส่วนตัวอยากเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่าส่วนตัวไม่เคย ใส่ใจตำแหน่งหน้าที่จะอยู่ในสถานะใดแม้กระทั่งตอนเป็นนายธรรมนัสพรหมเผ่าเป็นประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า ผมทำอะไรเพื่อคนไทย เพื่อคนพะเยา เพื่อคนภาคเหนือบ้าง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ใจสั่งสมองให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแสดงว่าทุกอย่างเป็นข่าวลือเป็นการต้องการสกัดดาวรุ่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า อย่ากดดันกันมาก เพราะผมมาจากประชาชน และส่วนตัวเป็นคนมีความจำนานและจำดี ไม่ได้ต้องการแก้แค้นแต่ถ้าเขาเหล่านั้นไม่แก้ไข เดี๋ยวจะถูกประชาชนลงโทษเอง และ ผมบอกได้เลยพรรคพลังประชารัฐ ถ้าผมยังเป็นแกนนำพรรคอยู่ ส.ส.ไอ้ห้อย ไอ้โหน ทั้งหลายไม่ได้ลงหรอกสมัยหน้า