ไฟเซอร์และบิออนเทคฟ้องร้องรัฐบาลโปแลนด์และฮังการี ฐานไม่จ่ายค่าวัคซีนโควิดที่สั่งซื้อระหว่างการแพร่ระบาดใหญ่
ทนายความตัวแทนของไฟเซอร์และบิออนเทค บริษัทยาระดับโลก ได้ยื่นฟ้องศาลเบลเยียมของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวานนี้ เพื่อฟ้องร้องรัฐบาลโปแลนด์และฮังการี ฐานยังไม่ได้จ่ายค่าวัคซีนโควิด ที่สั่งซื้อในช่วงการระบาดใหญ่ โดยในช่วงเวลานั้น ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมดได้สั่งซื้อวัคซีนสำหรับประชากรของตน ผ่านโครงการจัดซื้อร่วมกัน ที่ลงนามในเดือนพฤษภาคม 2564
โดยไฟเซอร์ จากสหรัฐ และบิออนเทคจากเยอรมัน เรียกร้องให้โปแลนด์จ่ายหนี้จำนวน 1พัน 3 ร้อยล้านยูโร (ราว 5 หมื่นล้านบาท)พร้อมดอกเบี้ย ส่วนฮังการีถูกเรียกเก็บหนี้ 60 ล้านยูโร (ราว 2 พัน 3 ร้อยล้านบาท) สำหรับวัคซีน 3 ล้านโดส
จากข้อมูลของสำนักงานกฎหมายสเตรอเลีย ในบรัสเซลส์ ข้อพิพาทของโปแลนด์กับไฟเซอร์ย้อนกลับไปถึงเดือนเมษายน 2565 ซึ่งในขณะนั้นรัฐบาลโปแลนด์ได้แจ้งบริษัทไฟเซอร์ และกรรมาธิการด้านสุขภาพ อาหาร และความปลอดภัยของสหภาพยุโรปว่า รัฐบาลโปแลนด์จะไม่รับมอบวัคซีนดังกล่าว โดยอ้างข้อโต้แย้งทางกฎหมาย และข้อเท็จจริงหลายประการเพื่อสนับสนุนจุดยืนของตน
ส่วนเมื่อต้นเดือนนี้ โซลตัน โควัชโฆษกรัฐบาลฮังการีกล่าวหาคณะกรรมาธิการยุโรปและไฟเซอร์ว่า สมรู้ร่วมคิดกันในการรีดไถเงินจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยเห็นได้ชัดว่าวัคซีนเหล่านี้ถูกสั่ง และบังคับส่งให้กับประเทศสมาชิกในปริมาณมากโดยไม่จำเป็น
สำหรับการพิจารณาคดีเบื้องต้น ศาลบรัสเซลส์ระบุว่า จะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม ซึ่งข้อฟ้องร้องดังกล่าว ไม่มีการนำเสนอหลักฐานของการทุจริตใดๆ ในโครงการจัดซื้อร่วมของคณะกรรมาธิการยุโรป แต่ในกรณีนี้ นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยนประธานคณะกรรมาธิการ ถูกผู้ตรวจการแผ่นดินของสหภาพยุโรปวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากเธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อความที่เธอส่งถึงนาย อัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ ให้สาธารณชนรับรู้