AFP รายงานเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 2 มค.) โดยอ้างตัวเลขยอดขายล่าสุดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพบว่ารถยนต์ไฟฟ้า BYD แบรนด์จีนขณะนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก แซงหน้าเทสล่า ของมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ไปแล้ว โดยรายงานเผยว่ายอดขายรถ BYD ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วหรือ 2566 พุ่งทะลุหลัก 5 แสนคันทั่วโลก โดยมียอดสั่งซื้อที่ 5 แสน 2 หมื่น 6 พัน 409 คัน ขณะที่เทสล่าขายได้ 4 แสน 8 หมื่น 4 พัน 507 คันในช่วงเดียวกัน
BYD ย่อมาจาก Build Your Dreams ก่อตั้งในปี 2538 ที่นครเสิ่นเจิ้น ศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางใต้ของจีน ช่วงเริ่มก่อตั้ง BYD ผลิตแค่แบตเตอรี่ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาทำรถยนต์ในปี 2546 ซึ่งช่วงแรกก็ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลจีนให้ผลิตรถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีประเทศไหนที่คิดเรื่องการทำรถขนส่งมวลชนไฟฟ้าเลย ทำให้ BYD ได้เปรียบและได้ครองพื้นที่การตลาดในปัจจุบัน
การเกิดก่อนและพัฒนาก่อน ยังทำให้ BYD สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า 5 ล้านคันเป็นรายแรกของโลกในปีที่แล้ว ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มากที่สุดในโลกอีกตำแหน่ง ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าต่างชาติทั้งเทสล่า, BMW, เมอร์เซเดส เบนซ์และออดี้ ต่างต้องพึ่งแบตเตอรี่ของ BYD ทั้งสิ้น
นอกจากปัจจัยที่เกิดก่อนและพัฒนาก่อน BYD ยังได้เปรียบคู่แข่งเพราะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ที่ให้ทั้งเงินสนับสนุน เงินชดเชยภาษีสำหรับผู้ซื้อ และเงินสนับสนุนในการทำวิจัยและการพัฒนาด้วย โดยระหว่างปี 2557-2565 รัฐบาลจีนจ่ายเงินสบับสนุน BYD มากกว่า 2 แสนล้านหยวนหรือราว 1 ล้านล้านบาท ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อ BYD ในราคาที่ถูกแต่มีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่ง ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาคู่แข่งต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง
และเมื่อปีที่แล้ว BYD ยังได้ประกาศศักดาจะไปบุกตลาดยุโรป ด้วยการไปสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่ฮังการี โดยจะผลิตทั้่งรถบัสโดยสารและรถยนต์ไฟฟ้า