วันที่3 ก.ย. 2564 ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐมุ่งให้ความสนใจกับอัตราการติดเชื้อโควิดในกลุ่มเป็นพิเศษในช่วงนี้เพราะเป็นช่วงที่โรงเรียนเปิดภาคเรียน และรัฐบาลอนุญาติให้เด็กไปโรงเรียนได้แล้ว แต่ข้อมูลล่าสุดจากสถาบันกุมารศาสตร์อเมริกันกลับชี้ว่ามีเด็กอเมริกันมากกว่า 5 แสนคนติดเชื้อโควิดระหว่างวันที่ 5-26 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระยะเวลาแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญออกมาเรียกร้องให้มีการบังคับใส่หน้ากากอนามัยในโรงเรียนเพื่อป้องกันการติดเชื้อในเด็ก
ดร.โจนาธาน ไรเนอร์ นักวิเคราะห์ด้านการแพทย์ของ CNN เผยว่าโควิดกำลังแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กๆที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน เนื่องจากผู้ใหญ่ที่สามารถฉีดวัคซีนได้จำนวนมากก็ไม่ฉีด ดังนั้นเด็กที่ยังฉีดไม่ได้ก็ไม่มีเครื่องป้องกัน โดยไวรัสสามารถแพร่จากผู้ใหญ่ไปสู่เด็กได้อย่างง่ายดาย และว่าการบังคับใส่หน้ากากอนามัยในโรงเรียนเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
ด้านดร.แอนโธนี่ ฟาวซี่ ผอ. สถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้สหรัฐออกมาประกาศสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในเด็กเล็กทันที บอกว่าการฉีดวัคซีนในเด็กเล็กไม่ใช่เรื่องใหม่และเรื่องแปลก เพราะวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ, โรคหัด, อีสุกอีใสหรือไวรัสตับอักเสบก็บังคับฉีดกันอยู่แล้ว แล้วทำไมวัคซีนป้องกันโควิดจะฉีดไม่ได้
ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการฉีดวัคซีนในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งดร. โรเชล วาเลนสกี้ ผอ.ศุนย์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดสหรัฐหรือ CDC บอกว่าตอนนี้รอองค์การอาหารและยาสหรัฐหรือ FDA อนุม้ตรับรองอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้รอข้อมูลจากไฟเซอร์อยู่ ส่วนไฟเซอร์ก็อยู่ระหว่างการทดลอง คาดว่าจะสามารถส่งข้อมูลให้ FDA ได้ภายในปลายเดือนนี้หรือเดือนหน้า