พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงนาย เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ที่ออกมาประกาศล้มนายกฯ ว่า ไม่มีราคา อย่าไปฟังเขาเลย
ส่วนกรณี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวหาพลเอกประยุทธ์มีการจ่ายเงินให้ส.ส.ในสภาถือว่าเป็นคนพูดแบบไม่มีสติสัมปชัญญะ พูดแบบนี้โดยไม่มีหลักฐาน คาดว่าฝ่ายกฎหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ปล่อยไว้ไม่ได้เพราะถือว่าคนๆนี้มีพฤติกรรมหลายครั้งแล้ว ครั้งก่อนก็กรีดเลือดในสภา ซึ่งระหว่างนั้นนายวีระกร คำประกอบ ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวยืนยันว่าเป็นการกรีดเลือดในสภาเพื่อหาเสียงให้ลูกสาวที่จะลงสมัครเลือกตั้งอบจ. พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่ามีคนตอบให้แล้วก็ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนติดตามพฤติกรรมคนที่พูดออกมา ว่าเป็นอย่างไร ความเชื่อถือระหว่างคนนี้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนที่คิดจะล้มนายกรัฐมนตรี เขาต้องการจะล้มอยู่แล้วซึ่งความน่าเชื่อถือ ว่าใครน่าเชื่อถือกว่ากัน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ว่าไม่มีอะไรแตกต่างจากครั้งก่อนเป็นข้อมูลเดิมๆ ตัวเลขเดิมๆเอามาแล้วเป็นตัวเลขย้อนหลัง ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้มันเปลี่ยนไปแล้วเรื่องโควิด เรื่องผู้ป่วยบาดเจ็บ ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งก็พยายามแก้ไขไปและก็มีพรรคการเมืองพรรคพลังประชารัฐมาช่วยแก้ไขดูแลประชาชนในพื้นที่ นี่คือหน้าที่ของส.ส.ดูแลประชาชนเข้าไปดูแลและเชื่อมโยงกลไกของรัฐ ของท้องถิ่นในการดูแลผู้ป่วยนำมารักษาพยาบาล
ผู้สื่อข่าวสอบถาม แสดงว่ามีการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วเรื่องการล้มหรือไม่ล้มนายกฯพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าขึ้นอยู่กับใครทำ เขาทำจริงหรือเปล่า และจะทำต่อหรือไม่ และเชื่อมโยงอยู่กับใคร แต่แนวทางในการโหวตลงมติเป็นเรื่องของแต่ละคน ผมไม่รู้
พลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่า พูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตลอดและถือเป็นที่และคุยกันทุกวันซึ่งทุกคนรู้จักและสื่อเป็นคนตั้งเองว่า 3 ป. ยืนยันว่า “ไม่มีใครมาทำลายผมได้หรอก ทุกคนอาจจะไม่รู้และไม่ได้รักเพื่อนรักคนอื่นเหมือนผมรักกัน 3 คนร่วมเป็นร่วมตายกันมา อยู่ชายแดนท่ามกลางสนามรบด้วยกัน และเป็นผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ก้าวแรกที่มารับราชการอยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนกันจนกระทั่งโตมายังเคารพกันอยู่ ผมมีวันนี้ได้ เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผม ซึ่งพี่ทั้งสองคนไม่เคย สอนผมให้ทุจริตหรือโกงไม่มี
พลเอกประยุทธ์ ย้ำอีกครั้งว่า 3 ป. อะไรเนี่ยใครจะตีผมยังไงไม่มีแตกอยู่แล้ว รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดผมไว้ ซึ่งรู้ว่ามีคนเสี้ยมให้แตกกันมาตั้งนานแล้ว เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ถึงจะเบื่อการเมืองอย่างไรก็ต้องทำให้ดีที่สุดเพราะนึกถึงประชาชนเป็นหลัก ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า การปฏิรูปต่างๆทุกอย่างที่ต้องการก็ทำให้ แต่ช้าบ้าง เร็วบ้างก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนแนวทางวิธีการข้อกฎหมาย และการปฏิรูปทางการเมืองต้องแก้ที่ตัวส.ส.ถ้ายังเป็นอย่างนี้จะหาวิธีการล้มเลื่อยขานี่คือการยังไม่ปฏิรูปเลย แม้แต่การพูดจาในสภาก็ยังไม่ถูกต้อง บิดเบือน ย้อนกลับไปกลับมา ก็ขอให้ว่ากันตามระเบียบกติกา ยืนยันมั่นใจว่าจะต้องเดินไปอย่างเข้มแข็ง ตราบใดที่ประชาชนยังต้องการ ผมก็ยังต้องเดินต่อไป
สำหรับ ความสัมพันธ์กับร้อยเอกธรรมนัสจะมีการแก้แค้นกันหรือไม่นั้น นายกถามกลับว่าจะแก้แค้นกัน ด้วยเรื่องอะไร ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละคน อย่าต้องให้ผมมาทะเลาะกัน จะเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็ต้องรับฟังกันและกันก็ต้องเข้าใจว่าผมเป็นใครเป็นนายกรัฐมนตรี และนายกต้องไปฟังใครที่มันไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงผมจะฟัง ถ้าเรื่องผลประโยชน์อะไรต่างๆผมไม่ฟังและไม่เห็นมีใครมาพูด มาปล่อยข่าวตรงนั้นตรงนี้ซึ่งตัวเลขเคยได้ยินแล้วว่าจะมีการให้แต่มาจากอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ยืนยันว่าข่าวลือต่างๆไม่ทำให้ตนเสียสมาธิ ถ้าเสียสมาธิคงเสียไปนานแล้ว
ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมามีระยะห่างระหว่างนายกกับส.ส.จึงทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจกันในบางเรื่องนั้น พลเอกประยุทธ์ ระบุว่าเพราะตนต้องทำงานเยอะ แต่ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคให้ไปรวบรวมข้อมูลที่มีปัญหาจากสมาชิกซึ่งได้พูดคุยกับบรรดาส.ส. ที่มาพบ ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ซึ่งการเข้ามาพบของส.ส. เป็นการเปิดเผยทั้งสิ้นไม่ได้ไปแอบพบในห้องน้ำ ไม่ใช่ ผมทำอะไรก็ตามผมมีบุคคลที่สามอยู่ด้วยเสมอในการทำงาน เพื่อความโปร่งใส ถ้าทำอะไรไม่มีพยานก็ลำบาก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการนัดพบพูดคุยกับส.ส.ด้วย
กรณีของความสัมพันธ์ระหว่างร้อยเอกธรรมนัสกับนายกรัฐมนตรีนั้นพลเอกประยุทธ์ยืนยันว่าผมไม่เคยมีอะไรกับเขา และผมเป็นคนที่เอาเขาเข้ามาทำงานเอง ผู้ใหญ่จะมีปัญหากับเด็กได้ยังไงและไม่ได้ระบุถึงแค่รายนี้รายเดียว แต่ถ้าเด็กมีปัญหากับผู้ใหญ่เดี๋ยวผมแก้เอง ส่วนเรื่องที่ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่ามีไอ้ห้อยไอ้โหนข้างตัวนายกนั้น พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ใครล่ะ ผมไม่เห็นมีใครมาโหนผมเลย และผมก็ไม่ชอบคนโหนอยู่แล้ว ไอ้คนที่ชอบโหนผม เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าไอ้คนที่พูดว่า ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน ขอให้ไปไกลๆตัว
ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่าจะต้องมีแผน เผชิญเหตุสุดท้ายเพื่อรองรับอุบัติเหตุทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า จะให้ทำอย่างไรถึงแม้ว่าจะมีการล้มนายกฯ ก็ต้องไปดูกฎหมายมาตรา 167 มาตรา 168 เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ไม่รู้ ซึ่งยืนยันว่าไม่หวั่นไหว ในการทำงานถึงแม้ว่าจะไม่สำเร็จอยู่บ้าง หรือสำเร็จไปแล้วแต่หลายอย่างที่เป็นผลสำเร็จ มักไม่ค่อยนำมาพูดกัน หลายคนได้ประโยชน์ หลายคนพอใจหลายคนก็ยังไม่ได้ แต่ก็นำประเด็นที่ยังไม่ได้มาโจมตี เพราะฉะนั้นสื่อต้องช่วยขยายความให้นายกด้วย พลเอกประยุทธ์ ปฏิเสธว่าไม่รู้มี กระบวนการคนต่างประเทศ อยู่เบื้องหลัง
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ได้มีเวลาถามไถ่พูดคุยกับส.ส.และทุกคนก็ยืนยันว่าอยู่กับนายก เพราะทุกคนให้เกียรติเชิญมาเป็นบัญชีรายชื่อนายกฯเอง ซึ่งต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใครดีก็ว่าดี ใครไม่ดีค่อยว่ากันต้องดูตามข้อเท็จจริงอย่าไปหวั่นไหว ไม่อยากให้วุ่นวายในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนี้
พลเอกประยุทธ์ เปิดเผยด้วยว่า เรื่องชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ไม่เคยปิดบังที่ผ่านมาก็ชี้แจงทุกครั้ง ถึงแม้ว่าตามกฎหมายป.ป.ช. ไม่ได้ระบุว่าไม่ต้องเปิดเผยทรัพย์สินหากเปลี่ยนตำแหน่ง 1 เดือน แต่ตนไม่เคยปิดบัง ยืนยันไม่ได้ขัดขวางเพราะ ได้ส่งข้อมูลไปทุกครั้ง แต่เป็นเรื่องของป.ป.ช.ที่จะเปิดเผยหรือไม่
ในส่วนของแนวทางวัคซีนเข็ม 3 ของประชาชนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ไปแล้วนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคณะแพทย์ กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะฉีดอย่างไร เข็ม 1 ต้องฉีดให้เร็วที่สุด และเข็ม 2 และมีระยะห่างระหว่างกันจึงหาวิธีลดระยะห่างระหว่างเข็ม 1 และ 2 แพทย์จึงศึกษาในการฉีดไขว้ และ เมื่อฉีดมาผลการพิสูจน์ก็พบว่าได้ผลถือจากการ ประเมินของคณะแพทย์เราต้องเชื่อมั่นแพทย์ของเรา ไม่เชื่อสาธารณสุข จะเชื่อใคร