บิ๊กต่อ ยันตำรวจได้คลิปกล้องวงจรปิด “คดีป้าบัวผัน” ก่อนสื่อฯ วอนสังคมอย่ามองตร.เลวทุกคน

บิ๊กต่อ ยันตำรวจได้คลิปกล้องวงจรปิด "คดีป้าบัวผัน" ก่อนสื่อฯ วอนสังคมอย่ามองตร.เลวทุกคน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จับตัวนายปัญญา คงแสนคำ หรือลุงเปี๊ยก สามีของ น.ส.บัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ ผู้เสียชีวิต ซึ่งปรากฏว่า ผู้ก่อเหตุแท้จริงคือกลุ่มเยาวชน 5 คน
โดยขณะนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังอยู่ระหว่างการรอรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร จากผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 ถึงมูลเหตุและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ยืนยันว่า ตั้งแต่ที่ลุงเปี๊ยก มามอบตัวกับตำรวจและรับสารภาพ ได้พาตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ รวมทั้งเก็บพยานหลักฐาน คราบเลือด ดีเอ็นเอ เพื่อส่งตรวจ แต่ผลยังไม่ออก และยังมีเหตุสงสัยทางคดี จึงได้ส่งตัวไปฝากขังไว้ก่อนตามกฎหมาย


หลังจากนั้น ได้ส่งชุดสืบสวนไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามข้อสงสัย และเมื่อได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมาแล้ว ก็พบว่า ผู้ก่อเหตุฆาตกรรมไม่ใช่ลุงเปี๊ยก จึงได้ไปทำเรื่องขอปล่อยตัวออกจากเรือนจำทันที พร้อมยอมรับว่า ในส่วนตัวคดีนี้ มีความสงสัย จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ลงไปตรวจสอบรายละเอียดในเชิงลึกทั้งหมดในทุกประเด็น และเชื่อว่าจะได้ความกระจ่างทางคดี หากพบว่ามีตำรวจนายใดเข้าไปเกี่ยวข้องทางคดีที่ผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการอย่างไม่ละเว้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนประชาชนที่ไม่สบายใจกับเรื่องการทำงานของตำรวจในคดีนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่า ขอให้ตำรวจทำงานให้ครบถ้วนทุกประเด็น และตามพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะเคลียร์ได้ทุกประเด็น ในตอนนี้หากพูดไปก็เหมือนการแก้ตัว หากพบใครทำผิดจริงก็จะดำเนินคดี ไม่มีการช่วยบุคคลใด และจะเห็นได้ว่า ช่วงที่เกิดเหตุตอนแรก ได้สั่งการย้ายตำรวจที่มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหาออกมาจากพื้นที่แล้ว เพื่อป้องกันการเข้าไปแทรกแซงการทำงานของตำรวจชุดทำคดี

ส่วนการนำตัวลุงเปี๊ยก ไปฝากขังในระหว่างที่ทำคดียังไม่สิ้นสุดนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่า ทางตำรวจได้ค้นหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาก่อนสื่อมวลชน หลังจากการสอบสวนแล้วพบข้อสงสัย จึงได้ไปไล่กล้องตรวจสอบทั้งหมด แต่ยอมรับว่า ยังไม่ได้ไปคุยกับเจ้าของกล้องวงจรปิด ว่าตำรวจหรือสื่อมวลชน เข้าไปเจอภาพจากกล้องวงจรปิดก่อน ในช่วงเย็นวันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จะรายงานขึ้นมาให้ทราบถึงรายละเอียดทางคดีทั้งหมด

ส่วนกรณีที่สังคมกล่าวหาถึงครอบครัวตำรวจมักจะไปก่อเหตุ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยอมรับว่า ต้นทุนทางสังคม ตำรวจมักจะติดลบอยู่แล้ว แต่ตำรวจทั้งประเทศมีอยู่กว่า 2 แสนนาย แต่เมื่อมีผู้ก่อเหตุที่เป็นลูกตำรวจ หรืออดีตตำรวจ ก็มักจะเป็นข่าว แต่อยากให้เห็นว่าที่ผ่านมา ก็มีเยาวชนที่ก่อเหตุอาชญากรรมที่ไม่ใช่ลูกตำรวจอยู่จำนวนไม่น้อย แต่อยากให้เชื่อมั่นว่า ที่ผ่านมาตำรวจก็ทำคดีไปตามพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยายามตัดวงจรให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับคดี ครูเจี๊ยบ น้องหยอด ที่พยายามทำให้เห็นวงจรอาชญากรรมของเครือข่ายนี้ให้ได้มากที่สุด

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังระบุว่า หลังจากนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรวบรวมสถิติทางคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนย้อนหลังไป 5 ปี เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม และจะส่งต่อให้กระทรวงยุติธรรม พิจารณาดำเนินการในการแก้กฎหมายกับเยาวชนที่กระทำผิดร้ายแรงได้บ้าง โดยให้ส่งรายงานมาให้ภายใน 31 ม.ค. นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เจ้าอาวาส" วัดป่า ยัน "ทนายตั้ม" ขอมาปฏิบัติธรรมจริง
"ผอ.ททท.ตราด​" โต้กระแส​ MOU 44 ทำยอด นทท. "เกาะกูด" ตก พร้อมกางตัวเลขไม่มีลด
สุดทน "กัญจนา" เอาจริง จ่อฟ้องหมิ่น คนสร้างเรื่องเท็จ โจมตีหยาบคาย ปมช่วยเหลือช้าง
‘ทนายเดชา’ แฉสื่ออาวุโส “ตบทรัพย์” ทำชาวเน็ตเสียงแตก แห่คอมเมนต์เพียบ
"นิด้าโพล" เปิดผลสำรวจ ปชช.ชี้ "คดีตากใบ" ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งครั้งหน้า
ผกก.สน.บางซื่อ จ่อฟ้องกลับ 2 สามีภรรยาแจ้งความเท็จ “คดีทนายตั้ม” ลั่นจากนี้จะปกป้องศักดิ์ศรีตนเอง
แม่ร้องสื่อลูกชายถูกแฟนเก่าของแฟน บุกแทงเจ็บ
อุทาหรณ์ "สามพ่อลูก" หวิดดับ ชาร์จมือถือ ไฟไหม้ที่นอนวอดยกชั้น
รวบแล้ว "หนุ่มไรเดอร์" ชี้หน้าด่ากราด ผู้ช่วยพยาบาลสาวในห้องฉุกเฉิน ไหว้สวยขอโทษ ยอมรับผิด
เดือด นักโทษแทงกันดับคาคุก ปมบ้านร่มเกล้า-บ้านหนองจอก ซัดทอดยาเสพติด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น