เป็นคดีที่หลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจ เมื่อชาย 3 คนที่เกิดขึ้นในต่างประเทศแต่เป็นพลเมืองญี่ปุ่นหรือเป็นผู้พำนักถาวร ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาลในโตเกียว เมื่อวันที่ 29 มกราคม เรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลกลาง ทางการโตเกียว และจังหวัดไอจิ คนละ 3 ล้าน 3 แสนเยน หรือประมาณ 7 แสน 9 หมื่นบาท โดยผู้ฟ้องอ้างว่า พวกเขาถูกตำรวจเรียกสอบปากคำบ่อยครั้งเพราะรูปลักษณ์หรือสีผิว ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรา 14แห่งรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ
ทนายของทั้งสามระบุว่า เป็นครั้งแรกที่มีการยื่นฟ้องคดี เรเชียล โพรไฟลิ่ง (racial profiling ) หรือการถูกจับตาและคัดกรองบุคคลด้วยเหตุผลทางเชื้อชาติ โดยตำรวจญี่ปุ่น
ในคำฟ้องระบุว่า ในญี่ปุ่นมีปฏิบัติการเรียกให้หยุดเพื่อสอบถาม อิงจากเชื้อชาติหรือสีผิวอย่างเป็นระบบ พวกเขาเคยถูกเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจโตเกียวและตำรวจจังหวัดไอจิสอบถาม แต่ไม่เคยได้รับคำอธิบายว่าเพราะอะไร การเรียกสอบถามบ่อยครั้ง เป็นการใช้อำนาจอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ล้มเหลวในการกำหนดแนวทางและกำกับดูแลอย่างเหมาะสม และรัฐบาลกลางก็ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้เช่นกัน
เซน ไซอิด ที่ย้ายจากปากีสถานมาญี่ปุ่นตั้งแต่ 8 ขวบและเป็นพลเมืองญี่ปุ่นตั้งแต่อายุ 13 อ้างว่าถูกตำรวจเรียกถาม15 ครั้งตั้งแต่ย้ายไปที่นาโงยา ในปี 2559 มีครั้งหนึ่งถูกเรียกสอบถามที่หน้าบ้าน ขอดูบัตรประจำตัวและค้นข้าวของหลังจากที่เขาบอกว่าเป็นพลเมืองญี่ปุ่น ตำรวจไม่ได้บอกเหตุผลทำไมต้องค้น เขาเข้าใจว่าความปลอดภัยมีความสำคัญสูงสุดในญี่ปุ่น แต่การถูกเรียกถามบ่อยๆ ทำให้เขาถูกคนรอบข้างสงสัยว่าเขาอาจไปก่ออาชญากรรมมาเพราะมีรูปลักษณ์เป็นต่างชาติ
ผู้ฟ้องอีกสองคน คือ มอรีส ที่มีเชื้อสายเป็นอเมริกันผิวสี กับแมททิว เชื้อสายอินเดียจากประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ อ้างว่าเผชิญประสบการณ์แบบเดียวกัน ตำรวจเรียกให้หยุดและสอบถามโดยไม่อธิบาย มอริสอ้างว่าถูกตำรวจสอบถามในที่สาธารณะ 16หรือ17 ครั้งในช่วงเวลาประมาณ 10 ปีตั้งแต่ไปอยู่ญี่ปุ่น ส่วนแมททิว ถูกตำรวจเรียกสอบถาม 70 ครั้ง แต่ไปอยู่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 20 ปี จนทุกวันนี้หลีกเลี่ยงออกไปข้างนอก เพราะไม่อยากเจอกับตำรวจอีก
NHK News reported on the lawsuit filed by foreign-born residents who are accusing Japanese police of racial profiling. They included a quotation from an Aichi police manual that instructed officers to check people who look like foreigners. pic.twitter.com/P4ylagU9dl https://t.co/q7vhOv1dAu
— Jeffrey J. Hall 🇯🇵🇺🇸 (@mrjeffu) January 30, 2024