“เรืองไกร” ยื่นกกต.ยุบก้าวไกล ล้มล้างปกครอง “แบม-ตะวัน”โผล่ป่วน

"เรืองไกร" ยื่นกกต.ยุบก้าวไกล ล้มล้างปกครอง "แบม-ตะวัน"โผล่ป่วน

 

 

1 ก.พ.2567 เมื่อเวลา 11:05 น.ที่ผ่านมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เดินทางยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้คณะกรรมการเลือกตั้งใช้อำนาจตามมาตรา 92 ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ในการส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล หลังเมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง จากการเสนอแก้ไขมาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 


นายเรืองไกร เปิดเผยว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามคำร้องมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ แล้วเห็นว่านายพิธา และพรรก้าวไกล ใช้สิทธิและเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง กฎหมายจึงบังคับให้ศาลฯ สั่งให้ผู้ถูกร้องยุติพฤติกรรม โดยสั่งห้ามยกเลิกมาตรา 112 ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 หรือกฎหมายใดก็ตาม เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ต้องเป็นไปโดยชอบ

 

ทั้งนี้ การมีพฤติกรรมเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ถูกระบุไว้ในมาตรา 92(1) ในขณะที่ 92(2) กำหนดว่าหากมีพฤติกรรมอาจจะเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นเด็ดขาดจึงมีผลผูกพันทุกองค์กร รวมถึง กกต. แบะรัฐสภา จะไม่สามารถดำเนินการประชุมใด ๆ ได้ หากมีความผิดละเมิดมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ

 

ตนเองจึงเดินทางมา กกต. เพื่อให้นำผลวินิจฉัยเมื่อวานนี้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 92 (1) และ (2) เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าจะต้องยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ พร้อมแนบคำร้องที่ตนเองเคยยื่นเอาไว้ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.และวันที่ 30 มิ.ย.2566 รวมถึงคำร้องที่เคยร้อง ปปช..ในปี 2564 แนบมาด้วยอีก 20 แผ่น

ยืนยันว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ กกต. จะอยู่เฉยไม่ได้ รวมถึง ปปช. ด้วย เพราะตนเคยยื่นร้อง สส.44 คน ที่เข้าชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ขณะที่รัฐสภา หากมีการเสนอญัตติหรืออภิปราย เกี่ยวกับสถาบันฯ ซึ่งข้อบังคับห้ามอยู่แล้ว ในทางใด ๆ ประธานสภาฯ จะต้องยึดถือแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้

ทั้งนี้นายเรืองไกร ยังเปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลของพรรคการเมืองอื่น ๆ รวมถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเป็นคิวต่อไป ไม่ว่าจะนายเศรษฐา ทวีสิน, นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ที่เคยพูดไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้ง หากพบว่าเข้าเกณฑ์ความผิดตามกฎหมาย ก็จะยื่นตรวจสอบ ไม่ใช่เรื่องยาก

 

โดยระหว่างที่นายเรืองไกรกำลังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ปรากฎว่า น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ได้เดินทางมายังบริเวณหน้สำนักงานกกต. โดยสวมเสื้อสีขาว ที่คอทั้งคู่มีเชือกมัดคล้องคอ และมือไว้ด้วยกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พยายามเข้ามาตรึงกำลัง และกันไม่ให้ทั้งคู่เข้าไปยังวงสัมภาษณ์ของนายเรืองไกร

 

ก่อนจะทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขอให้ศาลนำตัวไปประหารเนื่องจากมีความผิด ที่ได้ทำการล้มล้างการปกครองด้วยโพลและสติกเกอร์ ซึ่งนายพิธาเคยร่วมติดสติกเกอร์สนับสนุนการยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งขณะนี้มีเพื่อนของเราอยู่ในคุก จากนั้นแบมและตะวัน ได้ร่วมกันเขียนข้อความและอ่านชื่อบุคคลที่ถูกจำคุกในคดีมาตรา 112

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รองผบช.ภ.2 แถลงปิดคดี ผู้ต้องหา ฆ่าตัดนิ้ว 'แม่ยายอัยการ' เจ้าตัวสารภาพ ต้องการเงินใช้หนี้ ลงมือเพียงลำพัง
"รมว.สุดาวรรณ" เผย วธ.ร่วมสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมพร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนมาประดิษฐานในไทย วันที่ 4 ธ.ค.67-14 ก.พ.68
"ผู้เสียหาย" ร้องสอบ "เอ๋ คลองหลวง" ท้าวแชร์ไฮโซ ส่อโกงกว่า 12 ล้าน
สหรัฐฯปลดล็อก ATACMS ให้ยูเครน มีผลอย่างไร
“เมืองไทยประกันภัย” เชิญ “ศิลปินแห่งชาติ” ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง
"พระพยอม" ชี้ "ตาทิพย์" เป็นวิชามาร ไม่มีในพระไตรปิฎก เตือนพระที่สอน อย่าทำตัวเป็นศาสดา
ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน ตรวจเยี่ยมกองพันรถถัง กองพลนาวิกโยธิน สร้างขวัญกำลังใจ
ชาวบ้าน สุดทน สารเคมีไหลลงแหล่งน้ำ เตรียมแจ้งความเอาผิดกรมบังคับคดี
หนุ่มคลั่งราดน้ำมันจุดไฟเผารถพ่อเลี้ยง โดนจับไม่สำนึก แถมโยนความผิดให้คนอื่น แม่ลงฝ่ามืออรหันต์ลั่นเต็มกระบาล
จีนวอนลดเผชิญหน้าหลังสหรัฐไฟเขียวยูเครนใช้ ATACMS

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น