ปูนัม ปันเดย์ นางแบบชาวอินเดีย ทัวร์ลงอย่างหนัก หลังจากที่เธอออกมาเฉลยผ่านคลิปบนอินสตาแกรม ในวันเสาร์ที่ 3 ก.พ. ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ หลังจากในวันก่อนหน้า เพิ่งโพสต์ข้อความบนฉากหลังสีดำ ทำชาวโซเชียลตกใจไปตามๆกันว่า เธอเสียชีวิตแล้ว หลังจากต่อสู้มะเร็งปากมดลูกอย่างกล้าหาญ
สื่อในอินเดียพากันลงข่าวและประวัติหลังทราบข่าวจากไอจี และบนเวบไซต์วิกิพีเดีย ก็มีการอัปเดตข้อมูลของเธอไปเรียบร้อยแล้วว่าเสียชีวิต เพื่อนร่วมวงการบอลลีวูดก็ร่วมกันโพสต์ไว้อาลัย แม้ว่ามีหลายคนสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า 4 วันก่อนประกาศข่าวเสียชีวิต เธอยังดูแข็งแรงดี จากคลิปวิดีโอที่เธอโพสต์กิจกรรมลงเรือในรัฐกัว
และแล้ว นางแบบวัย 32 ก็ออกมาเฉลยกับผู้ติดตาม 1 ล้าน 3 แสนคนผ่านคลิปวิดีโอบนไอจีว่า การตายของเธอเป็นแค่เรื่องที่กุขึ้นมา เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสนทนาเรื่องมะเร็งปากมดลูก และเผยแพร่ข้อมูลออกไป ปันเดย์ บอกว่า “ใช่ค่ะ ฉันแกล้งตาย ฉันรู้ว่ามันสุดโต่ง แต่ก็ทำให้ ทันใดนั้น ทุกคนต่างพูดถึงมะเร็งปากมดลูกใช่ไหม ฉันภูมิใจที่ข่าวการตายของฉันช่วยให้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นมา”
แต่จากคอมเมนต์บนโซเชียล ดูเหมือนไม่ได้มีใครภูมิใจร่วมไปกับเธอ หรือปลื้มในสิ่งที่ทำ ชาวโซเชียลคนหนึ่ง เขียนว่า นี่เป็นแค่พฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ไม่ใช่การกระตุ้นเตือนอะไรเลย อีกคนตำหนิว่า น่าไม่อาย คราวหน้าคงไม่มีใครเชื่อถ้าตายขึ้นมาจริงๆ หลายคนบอกว่ามีวิธีสร้างสรรค์อีกมากมายที่จะใช้ในการปลุกกระแส การตายไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เป็นการเล่นกับความรู้สึกคนอย่างน่ารังเกียจ
ปันเดย์ เริ่มอาชีพนางแบบในปี 2553 และโด่งดังจากการรับบทนำในหนังบอลลีวูด เรื่อง นาชา (Nasha) หนังอีโรติก-ทริลเลอร์ ปี 2013 เธอรับบทเป็นครูที่มีสัมพันธ์กับนักเรียนมัธยม กิตติศัพท์ของเธอมาในแนวหวือหวาและแปลกประหลาด เช่น ในปี 2544 ประกาศจะเปลื้องผ้าฉลองหากทีมคริคเก็ตอินเดียคว้าแชมป์โลกในบ้าน สุดท้ายเธอไม่ได้ทำ แต่ปีต่อมา โพสต์ภาพนู้ดของตัวเองบนไอจีหลังทีมโปรดชนะการแข่งขัน
อินเดียมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกเกือบ 1 ใน 4 ของโลก และมีผู้หญิงเสียชีวิตเพราะโรคนี้วันละ 200 ราย อ้างอิงจากองค์การอนามัยโลก นักรณรงค์สาธารณสุขเรียกร้องรัฐบาล จัดฉีดวัคซีนให้เด็กหญิงทั่วประเทศ ซึ่งหลายประเทศทำแล้วพบว่าช่วยลดผู้ป่วยลงได้ ปันเดย์ได้แชร์คลิปการปราศรัยของนีร์มาลา สิตารามาน รัฐมนตรีคลังอินเดีย ที่บอกว่ารัฐบาลจะสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในงบประมาณปี 2024