วันที่ 12 ก.พ. 67 ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ควบคุมตัวนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ในฐานะผู้ต้องหาในคดีทุจริต STARK มาส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลอาญา โดยขณะนี้พนักงานอัยการฯ อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสาร ก่อนนำตัวนายวนรัชต์ยื่นฟ้องศาลฯในช่วงบ่ายวันนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการควบคุมตัวนายวนรัชต์มาส่งพนักงานอัยการฯในวันนี้ นายวนรัชต์ อยู่บนรถเข็น โดยก่อนหน้านี้นายวนรัชต์ได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะควบคุมตัวนายวนรัชต์ ตามหนังสือขอความร่วมมือจากสำนักงานอัยการคดีพิเศษ
ขณะที่ดีเอสไอเผยแพร่เอกสารข่าว โดยมีเนื้อหาว่า เมื่อเวลา 8.40 น. วันนี้ (12 ก.พ.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ สั่งการนายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ร่วมกับชุดปฏิบัติการฯ ควบคุมตัวนายวนรัชต์ ไปยังสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน และพนักงานอัยการคดีพิเศษ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ ได้ร่วมกันจับกุมนายวนรัชต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 561/2567 ลงวันที่ 10 ก.พ.2567 โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายวนรัชต์ได้ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่าน ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ นายวนรัชต์ เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีทุจริต STARK ในความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7 จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายหรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ,ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมกรบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย ,กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พรบ.นี้ โดยทุจริต
ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควร บอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ , กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำ
(1) ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว 2.ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น หรือ (3) ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้หรือลวงบุคคลใดๆ
ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 41, 343
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
