คนดังต่างพาเหรดกันตบเท้าพรึ่บ! ออกมาแสดงพลังไม่ทนต่อพฤติกรรมล้ำเส้นของแก๊งป่วน “ขบวนเสด็จฯ” สำหรับคนดังที่ดาหน้ากันออกมาแสดงพลัง อาทิ “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า “กระผม นายนิติพงษ์ ห่อนาค นิสิตเก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ขอลงชื่อแสดงความจำนงใส่เสื้อสีม่วง ไปพบปะพี่น้องจุฬาฯ สี่โมงเย็น พฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนามหน้าพระบรมรูปสองรัชกาล หลังจากที่ไม่ได้เข้าไปในจุฬาฯ มาหลายปีเพื่อถวายกำลังใจแด่รุ่นพี่ที่น่ารักที่สุดของผม
เช่นเดียวกับ กับ “นางวิรังรอง ทัพพะรังสี” ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปปท.) ในฐานะผู้ประสานงาน‘กลุ่มจุฬาฯ รักพระเทพฯ’ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เรียนพี่น้องนิสิตเก่าและนิสิตปัจจุบัน จุฬาฯ ทุกรุ่นทุกคณะที่เคารพรัก ขอชวนพวกเราทุกท่านที่รัก “กรมสมเด็จพระเทพฯ” ออกมาแสดงพลังปกป้องและถวายความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งทรงเป็นนิสิตเก่าอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ว่าพวกเราไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของผู้ที่ลบหลู่พระเกียรติยศของพระองค์ด้วยการพยายามขับรถแทรกเข้าไปใน “ขบวนเสด็จฯ”
จึงขอเรียนเชิญพี่น้องร่วมกิจกรรมแสดงจุดยืนปกป้องกรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ และน้อมถวายกำลังใจทูลกระหม่อมฯ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งประเทศ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันพฤหัสที่ 15 กุมภาพันธ์ ศกนี้ เวลา 16.00 น. การแต่งกาย สุภาพ ใช้ริบบิ้นหรือผ้าพันคอผืนเล็กสีม่วง พันแขนขวาหรือใส่เสื้อสีม่วง
ขณะที่ “พล.ต.พัชร รัตตกุล” หรือ นายพลดอลล่าร์ สามี คุณหญิงแมงมุม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล ได้โพสต์ข้อความอย่างดุเดือด เช่นกันว่า “ความรักและความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ คือ Soft Power ตัวจริง ที่ทำให้ประเทศชาติอยู่รอดมาได้ และทำให้คนไทยทุกคน สามารถเผยอหน้าขึ้นมาสู้ชนชาติอื่น อย่างมีศักดิ์ศรีได้จนทุกวันนี้ อย่าปล่อยให้เสนียดสังคม ซึ่งไม่เคยทำประโยชนให้กับส่วนรวมแม้แต่น้อยนิด มาทำให้คนไทยต้องแตกแยกความสามัคคี พร้อมตามด้วยแคปชั่นว่า “ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะยอมต่อไปไม่ได้ ชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี เพื่อชาติและราชบัลลังก์ ทนมากเกินพอ ราชอาณาจักรไทย ชื่อบอกอยู่แล้ว อ่านออกไหม
นอกจากนี้ “นายคมสัน โพธิ์คง” รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เสนอให้แก้ไขกฎหมายเพิ่มบทลงโทษในพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 และจะเป็นการลดปัญหาของการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย หลังเกิดเหตุตะวัน ทะลุวัง คุกคามขบวนเสด็จฯ พร้อมฝากไปยังนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สำหรับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัยที่เสนอโดยนายคมสัน เป็นการเพิ่มข้อความในมาตรา 7 มีสาระสำคัญ อาทิ
-มาตรา 7/1 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่ส่วนราชการในพระองค์หรือหน่วยงานของรัฐกำหนด โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และเสรีภาพขององค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หรือผู้แทนพระองค์ ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 5 แสนบาท
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำต่อพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป หรือบุคคลซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เป็นพระราชอาคันตุกะ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับตั้งแต่ 3 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท
-มาตรา 7/2 ผู้ใดกระทำโดยประมาทฝ่าฝืนมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่ส่วนราชการในพระองค์ หรือหน่วยงานของรัฐกำหนดโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อชีวิตร่างกาย และเสรีภาพขององค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หรือผู้แทนพระองค์ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับตั้งแต่1 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำต่อพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป หรือบุคคลซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เป็นพระราชอาคันตุกะ ต้องระวางโทษไม่เกิน 1 ปี และปรับตั้งแต่ 1 หมื่นบาทถึง 5 หมื่นบาท
ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง หากรู้สำนึกในการกระทำและทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าให้อภัยต่อการกระทำความผิดนั้น ให้ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษในการกระทำความผิด
-มาตรา 7/3 ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่ส่วนราชการในพระองค์ หรือหน่วยงานของรัฐกำหนด โดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 พันบาท