กระทำอันมิบังควรของ “น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” หรือ “ตะวัน กลุ่มทะลุวัง”ไปป่วนขบวนเส็ดจฯ “กรมสมเด็จพระเทพฯ” ไม่ควรเกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้ การกระทำเช่นนี้ย่อมต้องมีหัวขบวนการคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ยิ่งได้ฟังคำพูดของอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ “นปช.” อย่าง “นายวรชัย เหมะ” ที่ปัจจุบันเป็นปรึกษารองนายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย ให้ข้อมูลไว้น่าสนใจว่า
มีไอ้โม่งคอยชักใยคอยสุมไฟอยู่ข้างหลังโดยคนที่อยู่ข้างหน้าตกเป็นเครื่องมือโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นขอให้ทุกฝ่ายที่อยากแสดงออกถึงความคิดของตัวเองให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตเป็นบทเรียนนั้นคือ เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ จะทำอะไรทุกย่างก้าวต้องมีเหตุผลอยู่ในขอบเขตกฎหมาย ไม่เปิดช่องว่างให้ใครเข้ามาสร้างสถานการณ์ทำให้บานปลายดังนั้นต้องติดตามคนที่อยู่เบื้องหลังให้มาร่วมรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่โยนความผิดไปให้เด็กๆ เพียงอย่างเดียว
หรือแม้แต่ “นางแบกเพื่อไทย” ยังทนไม่ได้ “ลักขณา ปันวิชัย” หรือ “แขกคำผกา” ออกโรงมาฉะแรงว่า อย่ายุยงให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในอดีต 6 ตุลาฯ นักกิจกรรมสายสุดโต่งไม่กี่คนกับพรรคการเมืองที่แพ้ไม่เป็นเห็นแก่ตัว พยายามชี้นำ อยากให้มี 6 ตุลา เพราะรับไม่ได้ที่ตัวเองเป็นฝ่ายค้านที่โดดเดี่ยว คำพูดดังกล่าวของ “นางแบกเพื่อไทย” สะเทือน “พรรคก้าวไกล” เข้าอย่างแรง
ขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทย “นายธีระชัย แสนแก้ว” สส.อุดรธานี ซัดเต็มแข้งต่อคนที่ป่วนขบวนเสด็จฯด้วยว่า เป็นพวกไม่สำนึก แม้ได้รับการประกันตัวแต่ยังทำผิดซ้ำ เพราะวันนี้ นักโทษการเมืองมีหลายคนที่ยังติดคุก และตายในคุก เขาไม่มีโอกาสได้รับประกันตัว เขารอคอยกฎหมายนิรโทษกรรม การกระทำของ “คุณเวร” ดับความหวัง ทำลายความฝันของคนเหล่านี้
ยิ่งได้ฟัง “นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ พุ่งเป้าถล่มยับ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” หรือ “สตช.” ต้องไปสืบให้ได้ว่า “ไอ้โม่ง” ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการในการสนับสนุน ถือว่าเป็นผู้ร่วมก่อการ ต้องลากคอมาให้ได้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่เช่นนั้นจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ สังคมไทยรับไม่ได้ละเมิดกฎหมายย่ำยีหัวใจคนไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับขอทบทวนมาตรการในการถวายความปลอดภัยของขบวนเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ให้รัดกุมรอบคอบกว่านี้
1 ใน ส.ส.พรรคเพื่อไทย พอได้ฟังคำพูดแล้วต้องยกย่องว่า นายแน่มาก นั้นคือ “นายวิรัช พิมพะนิตย์” ประกาศ “พร้อมตายแทนพระองค์ท่าน” ยินดีแอ่นอกบังกระสุนแทนพระองค์ท่าน ดังนั้นใครก็ตามที่บังอาจมาก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เรารับไม่ได้ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องอยู่คู่ประเทศไทย คนใดที่คิดทำลายพวกนั้นเป็น “คนหนักแผ่นดิน”
ขณะที่ “นายอรรถกร ศิริลัทธยากร” สส. พรรคพลังประชารัฐ ถึงกับยัวะหนัก ยกกรณีตัวอย่างในต่างประเทศเพื่อต้องการสั่งสอนการทำงาน “ตำรวจไทย” ที่ห่วยแตกไร้น้ำยา คิดดูแล้วกันขบวนผู้นำอย่าง “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ยาวเต็มถนน สิ่งที่เกิดขึ้นวิธีการในประเทศเสรี คือ ตำรวจจับทันที ไม่ต้องตั้งคำถาม เพราะสหรัฐฯ เชื่อว่าความปลอดภัยของผู้นำประเทศต้องมาก่อน หรืออย่างประเทศอิตาลี ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาปิดถนนเพื่อประท้วง เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการลากคอไปอยู่ข้างถนนได้ทันที ขณะที่ของประเทศไทยผ่อนปรนในด้านการปิดการจราจรมากขึ้น เพราะพระองค์ทรงทรงห่วงใยคนที่ใช้ถนน ดังนั้นจุดยืนของพรรค คือ ขอสนับสนุนให้มีการเพิ่มการถวายความปลอดภัยให้มีความรัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต
#ขบวนเสด็จฯ #ถวายความปลอดภัย# พท. #รทสช. #ตะวันทะลุวัง
/-/-/