รุมซัด “ก้าวไกล” หมกมุ่น 112 คลั่งล้มสถาบัน ฉีกหน้ากาก “ไอ้โม่ง” ต่อท่อน้ำเลี้ยง

รุมซัด "ก้าวไกล" หมกมุ่น 112 คลั่งล้มสถาบัน ฉีกหน้ากากใคร "ไอ้โม่ง" ต่อท่อน้ำเลี้ยงแก๊งป่วน "ขบวนเสด็จฯ" ตัวการทำบ้านเมืองแตกแยก

รุมซัด “ก้าวไกล” หมกมุ่น 112 คลั่งล้มสถาบัน ฉีกหน้ากาก “ไอ้โม่ง” ต่อท่อน้ำเลี้ยง  Top News รายงาน 

 

ยังเป็นประเด็นเดือดต่อเนื่องในการตามหาตัวกันให้ควั่กว่า ใคร คือ ไอ้โม่งคอยบงการและต่อท่อน้ำเลี้ยงอยู่เบื้องหลังปล่อย “แก๊งป่วนขบวนเสด็จฯ” ออกมาเพ่นพ่าน สุมไฟขัดแย้งในบ้านเมืองทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมาแสดงพลัง “สีม่วงทั้งแผ่นดิน” ถึงขนาด”นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี” หรือ “เนเน่” รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. ที่มีจุดยืนจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ ซัดหมัดตรงไปยัง “พรรคก้าวไกล” ตั้งคำถามตัวโต ๆ ว่า ทำไมพวกคุณถึงหมกมุ่น มาตรา 112 จะทำให้ชีวิตคนไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นขนาดนั้นเลยหรือ แล้วนโยบายที่เหลือของพรรคก้าวไกล 299 นโยบายโยนทิ้งไปไว้ที่ไหน พร้อมกับ กล่าวว่า ถ้านักการเมืองอย่างพวกคุณเลิกหมกมุ่นอยู่กับการแก้กฎหมายที่รังแต่จะสร้างความแตกแยก คือ จะเห็นต่างหรืออะไร เอาเป็นว่าเห็นได้ชัดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประเทศไทยไม่พร้อมที่อยากให้คุณมาแตะเรื่องนี้ แล้วจะทำไปทำไม

ขณะที่ “รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร” อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ไม่ขอทน ออกมาชำแหละ ปรากฏการณ์ที่มีประชาชนผู้จงรักภักดี ต่างออกมาในรูปแบบต่างๆเพื่อปกป้องพระเกียรติ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ กันอย่างล้มหลาม เป็นเครื่องยืนยันว่า การกระทำของ “น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” และเพื่อนที่จงใจป่วนขบวนเสด็จอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เป็นการกระทำที่กระทบต่อจิตใจต่อคนที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างใหญ่หลวง

 

 

 

นักวิชาการดังท่านนี้ ย้ำว่า ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะเกี่ยวข้องกับ “รุ้ง” “เพนกวิน” “ตะวัน” “แบม” “อานนท์ นำภา” หรือ “สายน้ำ” และคนอื่นๆหรือไม่ก็ตาม แต่การกระทำของกลุ่มคนที่กำลังต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญอย่างแน่นอน มีคนจำนวนหนึ่งที่เห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เหมาะสมกับยุคสมัย ดังนั้นจึงต้องทำการจำกัดพระราชสถานะ และพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์เสียใหม่ ควบคุมเรื่องการใช้งบประมาณ และอาจไปไกลถึงขนาดเข้าไปจัดการกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และจะดีที่สุดหากประเทศไทยจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นอุปสรรคของความเท่าเทียมกันของสังคม เสียเลย

 

ขบวนการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์จึงเริ่มจากกลุ่มคนเหล่านี้ และด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร และสารสนเทศยุคใหม่ ทำให้ความคิดและความเชื่อแบบนี้เผยแพร่กระจายอย่างได้ผลได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้มีแนวร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดกิจกรรมก้าวร้าว จาบจ้วงล่วงละเมิดมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา หากไม่มีการจัดการ อย่างเป็นระบบและมีเงินสนับสนุน กิจกรรมในระดับนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ

หากถามว่า เงินสนับสนุนมาจากไหน คงไม่มีใครมีหลักฐานที่จะบอกได้แน่นอน แต่ความเป็นไปได้คือ เงินส่วนหนึ่งอาจมากจากพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองที่มีอุดมการณ์เดียวกัน จากนักธุรกิจที่ให้การสนับสนุนนักการเมืองเหล่านั้น และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีเงินสนับสนุนจากต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยให้เป็นอย่างที่เขาต้องการ ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานแน่นอน แต่ที่น่าสังเกตคือ บรรดาองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ NGO ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ล้วนมีพฤติกรรมปกป้องสนับสนุน เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกดำเนินคดี และให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ผู้ที่ถูกดำเนินคดีทุกคนอีกด้วย

 

 

ข้อเรียกร้องให้สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้มีการถกเถียงเกี่ยวสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างสร้างสรรและมีวุฒิภาวะ เป็นข้อเรียกร้องที่ซ้ำซากเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง มิใยที่จะมีคนอธิบายว่าหากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมีวุฒิภาวะด้วยความบริสุทธิ์ใจ หรือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงวิชาการ สามารถทำได้อยู่แล้ว คำถามจึงมีว่า คำว่าพื้นที่ปลอดภัยคือพื้นที่อย่างไร เป็นพื้นที่ที่ใครก็ได้สามารถจาบจ้วง ใช้ถ้อยคำหยาบคาย และกล่าวหาองค์พระมหากษัตริย์อย่างไม่เป็นธรรม หรือเผาพระบรมฉายาลักษณ์ อย่างที่ทำกันมาตลอด 4 ปี ได้โดยสะดวกและไม่มีความผิดกระนั้นหรือ

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

 

“รศ.หริรักษ์” กล่าวย้ำอีกว่า การเห็นต่างไม่เป็นปัญหาและไม่มีความผิด หากไม่ไปละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นก็ไม่มีความผิดเช่นกัน แต่การกระทำที่เกิดจากความเห็นต่าง หากเป็นการกระทำที่เป็นการล่วงละเมิดผู้อื่น หรือเป็นการกระทำที่เป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายองค์พระมหากษัตริย์ย่อมมีความผิดตามกฎหมายอย่างแน่นอน โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย

 

พรรคก้าวไกล” จะมีบทบาทหรือไม่อย่างไรในขบวนการดังกล่าวนี้ ไม่มีหลักฐานที่จะบอกได้แน่ชัด แต่ “พรรคก้าวไกล” คงปฏิเสธไม่ได้ว่า อุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลกับอุดมการณ์ของขบวนการดังกล่าวนี้เป็นอุดมการณ์เดียวกัน และไม่ว่าจะอยู่เบื้องหลังขบวนการนี้หรือไม่ก็ตาม พรรคก้าวไกลได้แสดงบทบาทเป็นผู้ที่ช่วยแก้ต่าง ปกป้อง ช่วยเหลือ สนับสนุนทางความคิด ไม่เคยตำหนิ คนในขบวนการนี้ตลอดมา

การแสดงออกของประชาชนเพื่อปกป้องและเทิดพระเกียรติ์สมเด็จพระเทพฯกันอย่างมากมายเช่นนี้ เท่ากับเป็นการบอกว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ไม่เอาด้วยกับขบวนการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น ไม่ต้องเรียกร้องให้สร้างพื้นที่ปลอดภัยใดๆทั้งสิ้น เพราะคนไทยรู้แล้วว่าขบวนการนี้ต้องการอะไร และสิ่งที่เป็นเป้าหมายของขบวนการนี้ คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการ ดังนั้นหยุดเสียทีเถิด เพราะพวกคุณต่างหากที่ทำให้เกิดความแตกแยกขัดแย้งในประเทศนี้ ไม่ใช่พวกเรา

#ขบวนเสด็จฯ #รทสช. #ก้าวไกล #ตะวันทะลุวัง #รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร #รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น