กทม.ประกาศผลผู้ชนะการเลือกตั้ง ประธานสภาเด็กและเยาวชน 30 เขต “หยก ทะลุวัง” คะแนนรั้งท้าย Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
16 ก.พ.2567 กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยรายชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร ระดับเขต 30 เขตแล้ว หลังปิดหีบเลือกตั้งเมื่อเวลา 17.00 น. โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง 6,973 คน จากจำนวนผู้ยืนยันตัวตนทั้งหมด 10,301 คน
กทม. จัดการเลือกตั้งประธานสภาเด็กและเยาวชน ในวันที่ 16 ก.พ. 67 ทางออนไลน์ ผ่านระบบ Blockchain เป็นครั้งแรก พร้อมกัน 30 เขต
สำหรับบทบาทของสภาเด็กและเยาวชน กรุงเทพมหานคร ระดับเขต ผู้ดำรงตำแหน่งในสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร จะมีวาระการทำงาน 2 ปี ทำหน้าที่เป็นตัวแทนเด็กและเยาวชนในการสะท้อนปัญหา นโยบายและผลประโยชน์ในประเด็นที่เกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน จากระดับท้องถิ่นสู่ระดับประเทศ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่หลักๆ คือ
1. รวบรวมข้อมูล ข้อเสนอแนะ หรือประเมินเรื่องที่มีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
2. เป็นกระบอกเสียงในการเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ต่อสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชน หรือองค์กรชุมชนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเด็กและเยาวชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
3. จัดกิจกรรมเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนภายในเขต จากงบประมาณและทรัพยากรที่ได้รับการจัดสรร โดยมีงบประมาณโดยประมาณ 30,000 – 100,000 บาท ต่อ 1 เขต
พร้อมระบุว่ามาจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ภายหลังสำนักงานเขตพระนครได้เปลี่ยนกราฟิกใหม่ โดยตัดชื่อโรงเรียนเอกชนนั้นออกไป โดยคาดว่าเป็นเพราะโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนประถมศึกษา ขณะที่ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นถึงความเหมาะสมในตัวผู้สมัครว่าขัดคุณสมบัติหรือไม่ เนื่องจากยังเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา
ขณะที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.หยก ได้โพสต์นโยบายหาเสียง เช่น คืนครูให้นักเรียน คืนการสอนให้ครู ยกเลิกการบังคับทรงผม ยกเลิกการบังคับเครื่องแบบนักเรียน ปรับปรุงห้องน้ำในโรงเรียนให้สะอาดให้ดี ลดหน้าที่ไม่จำเป็นของครูทำให้การสอนเต็มที่ ห้องน้ำนักเรียนหญิงมีผ้าอนามัยแจก ตรวจเช็กอุปกรณ์กีฬาให้มีคุณภาพ พัฒนาทางเดิน ทางเท้า ทางเรือ ป้ายรถเมล์ให้สะดวกและปลอดภัย เอารั้วสนามหลวงออก ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ สร้างอาชีพให้คนไร้บ้าน โดยพยายามจัดหาที่อยู่อาศัยให้ สร้างอาชีพให้เขาตามความถนัด โดยอาจประสานงานกับมูลนิธิที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ ปรับลดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วไปให้เยาวชน เพราะการเลือกตั้งส่งผลแก่ชีวิตพวกเขาและการเลือกตั้งแสดงให้เห็นถึงอะไรหลา ยๆ อย่าง ทำให้ตระหนักรู้เท่าทันการเมืองด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้คะแนนเป็นลำดับ 1 คือ น.ส.ฉัตรปวีณ์ รชตดำรงกุล ผู้สมัครเบอร์ 2 ได้รับการโหวต 40 คน ลำดับที่ 2 นายโสฬส ธีรธรรัตนะ ได้รับการโหวต 23 คน ลำดับที่ 3 ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 10 คน ลำดับที่ 4 นายพัชกฤตย์ ธรรมรัตนะวงศ์ ได้รับการโหวต 9 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น