สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ของสหรัฐรายงานโดยอ้างถึงข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า สหราชอาณาจักรมีความกังวลถึงการขยายการโจมตีฉนวนกาซา โดยกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (หรือ IDF) และทางกองกำลังก็ไม่มีความพยายามเพิ่มเติมใดๆเลย ในการปกป้องพลเรือน ซึ่งสิ่งนี้ อาจทำให้อิสราเอลละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ในกรณีที่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ลุกลามมากขึ้น เจ้าหน้าที่กฎหมายของสหราชอาณาจักร ก็ได้มีคำแนะนำถึงรัฐมนตรีของประเทศ ที่ดูแลใบอนุญาตส่งออกยุทโธปกรณ์ว่า อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ที่อาจไปส่งผลกระทบต่อการขายอาวุธและเทคโนโลยีบางอย่างให้กับอิสราเอลได้
แห่งข่าวยังระบุต่อว่า สหราชอาณาจักรและพันธมิตรต้องการให้มีรถบรรทุกประมาณ 500 คัน ที่มีสิ่งของจำเป็นเพื่อเข้าสู่ฉนวนกาซาในแต่ละวัน แต่ปัจจุบัน อิสราเอลปล่อยรถบรรทุกช่วยเหลือในจำนวนที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการอดอยากในดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งคำแนะนำข้างต้น ก็อาจนำมาใช้กับกรณีนี้เช่นกัน ข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแรงกดดันจากตะวันตกที่เพิ่มขึ้นต่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลว่า ให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
สำหรับเกณฑ์การส่งออกอาวุธของสหราชอาณาจักรนั้น ได้ระบุเอาไว้ว่า หากมีความเสี่ยงที่ชัดเจน ที่อาจมีการใช้อาวุธในการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง การส่งออกอาวุธก็ไม่ควรได้รับอนุญาต ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเอง ก็ไม่ได้เป็นประเทศที่จัดหาอาวุธให้อิสราเอลมากนัก โดยในปี 2022 ประเทศมียอดขายอาวุธให้อิสราเอลอยู่ที่ 42 ล้านปอนด์ ซึ่งในตอนนั้น อิสราเอลก็ไม่ได้ใช้อาวุธเหล่านี้ เพื่อละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศแต่อย่างใด