วันนี้ ( 26 ก.พ.) มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 373/2567 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบ หรือกำกับการสอบสวน กรณี นายปัญญา คงแสนคำ หรือ ลุงเปี๊ยก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเรื่องกรณีนายปัญญา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และอาจเข้าข่ายเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯไว้เป็นคดีพิเศษที่ 9/2567 ขอให้พนักงานอัยการเข้าตรวจสอบ หรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 ตามกฎหมายดังกล่าว
เนื่องจาก คดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ มีผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้การตรวจสอบ หรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 19 ประกอบมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 ประกอบ พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 มาตรา 31 และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่า ด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2566 ข้อ 23, 29 และ 30 อัยการสูงสุด จึงมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานและมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการ ดังนี้
ตั้ง นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ตั้ง นายปรัชญา ทัพทอง อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน ตั้ง นายน้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด เป็นคณะคณะทำงาน ตั้ง นายธีรัช ลิมปยารยะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นคณะทำงาน ตั้ง นางสาวทักษอร สุวรรณสายะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 คณะทำงาน ตั้ง ร้อยตำรวจเอก สุวรรณสาม คีรีวิเชียร อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 คณะทำงาน ตั้ง นายสุวภัทร ปานคง อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3