ระหว่างแถลงข่าวเรื่องการประเมินภัยคุกคามประเทศประจำปี ที่กรุงแคนเบอร์รา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ไมค์ เบอร์เกสส์ ผู้อำนวยการองค์การข่าวกรองความมั่นคงออสเตรเลีย เปิดเผยว่า มีอดีตนักการเมืองคนหนึ่ง ขายชาติ ขายพรรคและอดีตเพื่อนร่วมงาน เพื่อประโยชน์ของรัฐบาลต่างชาติ “เมื่อหลายปีก่อน”
เบอร์เกสส์ ไม่บอกชื่อประเทศและชื่อนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศ แต่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของเครือข่ายข่าวกรองต่างชาติที่ช่ำชอง และมองว่าออสเตรเลียเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ โดยเรียกสายลับทีมนี้ว่า A-ทีม (A คือออสเตรเลีย)
จารชนเหล่านี้พรางตัวในคราบที่ปรึกษา เฮด ฮันเตอร์ หรือที่ปรึกษาด้านการสรรหาบุคลากร เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่น นักวิชาการและนักวิจัย อ้างว่ามาจากบริษัทนั้นบริษัทนี้ที่ไม่มีอยู่จริง และมุ่งหาคนเข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา นักวิชาการ นักการเมือง คนในแวดวงธุรกิจ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ข้าราชการ โดยให้ค่าตอบแทนหลายพันดอลลาร์ เพื่อรายงานในหัวข้อต่าง ๆ เช่น การค้า การเมือง นโยบายต่างประเทศ และการทหาร โดยข้อมูลเกี่ยวกับข้อตกลงออคัส (AUKUS ) ซึ่งเป็นข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีทางทหาร ที่ออสเตรเลียลงนามกับสหรัฐ สหราชอาณาจักร ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
แต่อดีตนักการเมืองรายนี้ คือคนที่ A-ทีม ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดในการได้ตัวมาร่วมงาน ครั้งหนึ่ง เขาถึงขั้นเสนอให้ทีม ฯ ดึงตัวคนในครอบครัวนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มาร่วมงานด้วย แต่แผนนี้ไม่ได้ถูกนำมาดำเนินการ เบอร์เกสส์ กล่าวว่า หน่วยข่าวออสเตรเลียจัดการสลายปฏิบัติการของ A-ทีมไปแล้ว รวมถึงช่วยให้คนที่ถูกดึงมาเข้าร่วมแบบไม่รู้ตัว ถอนตัวออกมา
ถ้อยแถลงของผอ.ข่าวกรอง จุดกระแสคาดการณ์กันไปต่าง ๆ นานา และมีกระแสเรียกร้องให้ระบุชื่ออดีตนักการเมืองคนนั้น ปีเตอร์ ดัตตัน อดีตผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า หากไม่บอกชื่อ ปัญหาที่ตามมาคือทุกคนจะอยู่ในข่ายกันหมด เช่นเดียวกับ โจ ฮอคกี้ อดีตรัฐมนตรีคลัง กล่าวว่า การเปิดเผยของผอ.ข่าวกรอง ทำให้ส.ส.ทุกคนมีมลทิน และว่าไร้สาระสิ้นดี เมื่ออดีตนักการเมืองคนนั้นเป็นผู้ทรยศ แต่กลับปล่อยเดินลอยนวลโดยไม่ได้รับผลอะไรเลย แต่รัฐมนตรีบางคน อาทิ ริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกลาโหม และ จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลัง บอกว่า เคารพการตัดสินใจของหน่วยข่าวกรอง ที่จะเปิดเผยข้อมูลแค่ไหนและอย่างไร