“อนุทิน” ลั่นเอาอยู่ ปมชายต่างชาติทำร้ายหมอ ไม่ต้องถึงมือ “ชาดา” ยอมไม่ได้ให้มีอิทธิพลในประเทศ Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
วันที่ 3 มี.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวกรณีน.ส.ธารดาว จันทร์ดำ อายุ 26 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลดีบุก ถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายระหว่างที่นั่งพักอยู่บริเวณบันไดหน้าวิลล่าหรูในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า เมื่อวาน (2 มี.ค.) ตนได้กำชับเรื่องนี้ พร้อมได้หารือกับอธิบดีกรมการปกครองว่าในส่วนของกระทรวงมหาดไทยต้องจัดระเบียบตรงไหนบ้าง ทั้งนี้ตนได้มีโอกาสพบ กับนายธนกร วังบุญคงชนะ สส. บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งอยากให้ตนได้มีการลงพื้นที่ เพราะเหมือนเป็นเครือข่ายคล้ายมาเฟียชาวต่างชาติ เพราะตอนแรกเข้ามาเพื่อมาหากินกับนักท่องเที่ยวต่างชาติของเขา แต่ไป ๆ มาๆ ชักจะบานปลายเข้าใหญ่ ตนจึงได้มีการกำชับให้อธิบดีกรมการปกครอง และจะมีการกำชับไปทางผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันกับหลายฝ่าย
“ยืนยันว่าจะไม่ให้มีนักเลง ผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติเข้ามามีอิทธิพลในประเทศไทย หรือมีการมาทำความประพฤติที่ไม่ดีในประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ส่วนตัวตนรับไม่ได้อยู่แล้ว และผู้มีอิทธิพลคนไทยเรายังไม่ยอม แล้วจะให้คนต่างชาติมาทำตัวหรือมามีอิทธิพลคงไม่ได้ ส่วนเรื่องนี้จะให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงภาคไทย ลงพื้นหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ต้องให้นายชาดาหรอก เพราะเรื่องนี้อนุทินคนเดียวก็เอาอยู่ โดยให้นายชาดา ดูแลเรื่องอิทธิพลคนไทยไป“
ส่วนกรณีพื้นที่สาธารณะที่ต่างชาติลุกล้ำเข้าไป นายอนุทิน ระบุว่า ต้องใช้กฎหมาย และปัญหาทั้งหมดคือเราต้องใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เพราะ หากใช้อย่างเต็มที่แล้วคงไม่มีใครที่จะเอาประโยชน์จากใดฝ่ายหนึ่งได้ ดังนั้นต้องใช้กฎหมายออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยอมรับว่าเราต้องการนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่เมื่อมาเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม เพราะบ้านเมืองเรามีกฎหมาย มีวิธีการทำมาหากินแบบนี้ คนไทยไม่ชอบแบบนี้ก็ต้องเคารพ และเขาก็ต้องทำตาม ไม่ว่าจะเป็นต่างชาติคนไหนเข้ามาซ่าร์ หรือมาแอคอาร์ต จัดการหมด ง่ายนิดเดียวคือ ดึงวิซ่ส ดึงพาสปอร์ตออกไปก็จบแล้ว
ส่วนเรื่องนี้ เกิดขึ้นเพราะช่องโหว่ทางกฎหมาย และอาจจะมีคนมีสีหรือมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องทำตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ต้องไม่มีการโอบอุ้ม ไม่มีการดูแล ไม่มีการคุ้มครองใด ๆ จากผู้รักษากฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ได้กำชับทุกวัน ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น