ผ่าปมร้อน “สามารถ” จี้เช็กบิล “ก้าวไกล” อย่าปอดแหก “ไพศาล” ซัดโง่ซ้ำซากยุบพรรค

ผ่าปมร้อน "สามารถ" จี้เช็กบิล "ก้าวไกล"อย่าปอดแหก "ไพศาล" ซัดโง่ซ้ำซากยุบพรรคเลือกตั้งใหม่แลนด์สไลด์แน่

ผ่าปมร้อน “สามารถ” จี้เช็กบิล “ก้าวไกล”  อย่าปอดแหก “ไพศาล” ซัดโง่ซ้ำซากยุบพรรค  Top News รายงาน 

 

 

ก้าวไกล

 

 

 

 

ถ้าสรุป ณ เวลานี้ ก๊วนอดข้าวอดน้ำประท้วง ประกอบด้วย น.ส.ทานตะวัน หรือ ตะวัน ตัวตุลานนท์ , ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ , “บัสบาส” หรือมงคล ถิระโคตร และ “บุ้ง” เนติพร เสน่ห์สังคม จำเลยในคดี112 แท็กทีมกันประท้วงเพื่อกดดันศาลยุติธรรมให้ปล่อยตัวพ่วงทำอีเว้นท์ยกเลิก 112

 

 

 

ก้าวไกล

 

 

ในสายตาเซียนการเมืองอย่าง “นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มองปรากฎการณ์ดังกล่าวว่า มีคนส่งข่าวให้ตนที่มีพระรูปหนึ่งออกมาพูดว่า ถ้า “ตะวัน” เสียชีวิตจากการอดอาหารในเรือนจำ จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวลามไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ถ้ามีคนหนึ่งคนตายเพราะโดนรถชนจะต้องยกเลิกการขับรถทัังหมดหรือไม่ สถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทยทั้งประเทศสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นทรงอยู่เหนือการเมืองทั้งหมด

 

ใครที่จะอดอาหารประท้วง และบอกว่าจะต้องมีการแก้ไขให้ด่าสถาบันได้ ไม่ใช่ ถ้าไม่พอใจ ไม่อยากอยู่ประเทศไทย ก็ไปอยู่ประเทศอื่น ไม่จำเป็นที่จะต้องมาอดอาหารประท้วง ผมยังไม่เห็นด้วยเลยกับการที่ไปอยู่ในเรือนจำและอดอาหารประท้วง ในเมื่อเขาเลือกที่จะตายแบบนั้น ก็ให้เขาตายไป

 

 

ผมคิดว่าคนไม่ถึง 100 คนที่ออกมาต่อต้านเรื่องมาตรา 112 ไม่ใช่สาระสำคัญหรือเรื่องใหญ่อะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือการบังคับใช้กฎหมายผมถึงบอกว่า รัฐบาลนี้โดยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้เรื่อง

 

นายสามารถ กล่าวต่อว่า พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พศ.2551 มาตรา 37 กำหนดไว้ว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือมีการกระทำซึ่งลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจ หรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ในวรรคแรกห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างระบบประชาธิปไตยอันมีสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วันนี้ถ้ามีการนำเสนอข่าวว่า มีเด็กคนหนึ่งอดอาหารเพื่อที่จะให้มีการแก้มาตรา 112 เพื่อให้ปล่อยคนที่กระทำผิดมาตรา 112

 

 

ตนคิดว่านี่คือการทำลายระบบสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้นสื่อช่องไหนที่นำเสนอข่าวแบบนี้ ต้องถูกปิดทั้งหมด ไม่สามารถนำเสนอซ้ำได้ ไม่สามารถขยายผลเรื่องข่าวแบบนี้ได้ ฝากนายกรัฐมนตรีด้วย หากท่านยังกำกับและบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ ท่านไม่ควรเป็นนายกฯ ส่วนพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคงไปคาดหวังพรรคก้าวไกลไม่ได้ เพราะเขามีจุดยืนเรื่องนี้ถึงแม้จะเป็น สส.เพียงบางคนก็ตาม ผมจึงอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดเรื่องนี้ให้มาก

 

นายสามารถ ยังกล่าวถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ว่า ความผิดมันสำเร็จแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครอง มันเป็นหน้าที่ของท่านแล้ว ถ้ามี กกต.แล้วไม่ทำอะไร ตนว่าอย่ามีเลย ตนจะไปแจ้งความจับ “กกต.” ก็มีคนโทรมาหาว่า อย่าไปทำเลย กกต.กำลังทำอยู่ ตนก็ให้เวลาท่าน แต่ถ้าสิ้นเดือนมีนาคม ท่านยังไม่ทำ ตนจะไปแจ้งตำรวจและ ปปช.ให้ดำเนินคดีกับท่าน

 

 

 

ทั้งนี้วันนี้มันชัดเจนศาลมนูญวินิจฉัย มติ 9 ต่อ 0 เป็นเอกฉันท์ ซึ่งคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ตอนที่ กกต.ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ยังไม่มีคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ แต่ กกต.ใช้เวลาในการยื่นยุบพรรคเพียงนิ้วมือนับได้ แล้วศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยเพียงหลักเดือนเท่านั้นเอง เหตุการณ์นี้มันสะท้อนให้เห็นว่า มันเกิด 2 มาตรฐานสามหรือไม่ วันนี้ความผิดมันชัดเจนอยู่แล้ว ขอฝาก “กกต.” ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง อย่างเป็นกลางและเป็นธรรมด้

 

 

ก้าวไกล

 

ขณะที่ด้าน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย มองต่างมุมว่าถ้ายุบพรรคก้าวไกลเป็นความคิดที่โง่ซ้ำซาก เพราะ การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคใหม่ในคราบ พรรคก้าวไกล จะกลับมาแลนด์สไลด์เป็นรัฐบาลพรรคเดียวอย่างแน่นอน โดยระบุข้อความว่า ความคิดที่จะยุบพรรคก้าวไกลเป็นความคิดที่โง่ ซ้ำซาก ไม่ยอมสรุปบทเรียน ยุบพรรคไทยรักไทยมากี่รอบแล้ว จึงมาเป็นพรรคเพื่อไทยในวันนี้และเป็นรัฐบาลไปแล้ว ยุบพรรคอนาคตใหม่ ไปหนหนึ่งแล้ว ผลที่เกิดขึ้นคือ เกิดพรรคก้าวไกล และชนะเลือกตั้ง 2566 เป็นลำดับที่ 1 แต่ถูกขบวนการไสยศาสตร์ทางกฎหมาย ปล้นชัยชนะไป

 

 

 

การยุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้ “นายธนาธร” และพวกถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการเคลื่อนไหวงานมวลชนในแถวที่ 1 ถ้าหากพรรคก้าวไกลถูกยุบกรรมการบริหารพรรคหลายคนก็คงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และออกเคลื่อนไหวมวลชนเป็นแถวที่ 2 ในขณะที่ การยุบพรรคนั้นต้องลงทุนด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย , ความยุติธรรมในบ้านเมือง และ ความเป็นธรรมทั้งหลาย

 

 

 

ให้ระวังให้ดีว่า ถ้ายุบพรรคก้าวไกล จะส่งผลให้พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะ ในการเลือกตั้งสว.และท้องถิ่นทั่วประเทศ ชนิดมืดฟ้ามัวดิน และจะส่งผลต่อพรรคใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่อาจจะไม่ใช่ชนะเป็นลำดับที่ 1 แล้ว แต่จะชนะเกินครึ่งทั้งประเทศ จนอาจตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จด้วย

 

 

และนั่นก็หมายถึงการปฏิวัติประชาชาติโดยการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว ส่วนพรรคก้าวไกลจะชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นจริงตามที่ “นายไพศาล” จินตนาการหรือไม่นั้น ความจริง ณ นาทีนี้ “พรรคก้าวไกล” นั่งตบยุงไปก่อนอีก 3 ปีค่อยว่ากัน

 

ก้าวไกล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น