"ไทยร้อนพุ่ง" ทะลุ 44.5 องศาฯ เสี่ยงเกิดโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรก ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย อันตรายถึงชีวิตได้
ข่าวที่น่าสนใจ
ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยตามประกาศของ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า อุณหภูมิปีนี้จะสูงขึ้นกว่าปีก่อน “ไทยร้อนพุ่ง” อาจถึง 44.5 องศาเซลเซียส ซึ่งมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยดูได้จากค่าดัชนีความร้อน ซึ่งเป็นค่าที่สะท้อนความรู้สึกร้อนของร่างกาย จากการนำอุณหภูมิของอากาศมาคิดร่วมกับความชื้นสัมพัทธ์ เนื่องจากเมื่อความชื้นสัมพัทธ์สูงจะทำให้เหงื่อระเหยยาก และส่งผลให้รู้สึกร้อนกว่าอุณหภูมิจริงของอากาศ หากค่าดัชนีความร้อนเกิน 40 องศาฯ จะมีความเสี่ยงเกิดโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดโรคฮีทสโตรก
- เด็กเล็ก
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่
- โรคหัวใจ
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคอ้วน
จึงควรอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงแต่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน จะมีโอกาสเกิดฮีทสโตรกได้เช่นกัน ดังนั้น หากต้องทำงานกลางแจ้ง ควรเลี่ยงการสวมชุดที่มีสีเข้ม เนื่องจากจะดูดซับความร้อนได้ดี ดื่มน้ำมาก ๆ และสลับเข้าพักในที่ร่มเป็นระยะ เช่น ทุก 30 นาที หรือทุกชั่วโมง
อาการสำคัญของโรคฮีทสโตรก
- วิงเวียน
- อ่อนเพลีย
- ร่างกายมีความร้อนเพิ่มขึ้น
- เหงื่อไม่ค่อยออก
- ผิวร้อน แดง แห้ง
หากเริ่มมีอาการดังกล่าว ขอให้รีบเข้าที่ร่มหรือห้องที่มีความเย็น และดื่มน้ำมาก ๆ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- ให้ผู้ป่วยนอนราบ
- ยกเท้าและสะโพกสูง
- คลายเสื้อผ้าให้หลวม
- ถอดเสื้อผ้าออกเท่าที่จำเป็น
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว ซอกคอ รักแร้ และศีรษะ
- ใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
- หากผู้ป่วยหมดสติ ให้จับนอนตะแคงเพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดตันทางเดินหายใจ
และหากปฐมพยาบาลแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาล หรือโทรแจ้งสายด่วน 1669
ข่าวที่เกี่ยวข้อง