ปี่กลองการเมืองดังสนั่นตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะ “พรรคก้าวไกล” คึกเป็นม้าพยศเพราะวาดฝันว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในบางจังหวัดต้องการคว้าเก้าอี้ “นายกอบจ.” หรือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมาครอบครอง เริ่มขยับที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก นำทัพเองโดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ไปเปิดตัว “นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล” ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต จังหวัดนี้นับว่า พรรคก้าวไกลเป็นต่อ พรรคคู่แข่ง “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” เนื่องจากเลือกตั้งปี 2566 กวาดส.ส.มาได้ 3 คน ซึ่งพรรคก้าวไกล สุดมั่นใจว่าจะขี่กระแสส้มฟีเวอร์เหมือนปี 2566 “ส้มยกจังหวัด” อีกครั้งได้หรือไม่ต้องรอพิสูจน์ว่ากระแสส้มในปักษ์ใต้ยังจะแรงดีไม่มีตก หรือ จืดจางไปเสียแล้วกระมั่ง
ในขณะที่พรรคคู่แข่งฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ ที่มี “พรรคเพื่อไทย” หรือ “พท.” เป็นหัวหอกรัฐบาลฝ่ายอนุรักษ์นิยมในขณะนี้ ไม่ยอมตกเป็นรอง ล่าสุด “นายดนุพร ปุณณกันต์” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมถึงการเลือกนายกฯอบจ.ที่ตอนนี้พรรคก้าวไกลเคลื่อนไหวแล้ว ทางพรรคเพื่อไทยมีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้างว่า จริงๆได้มีการพูดคุยในคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือฝ่ายกฎหมายของพรรค กำลังประเมินเรื่องนี้กันอยู่เพราะบางจังหวัดต้องยอมรับว่าไม่มีปัญหา แต่บางจังหวัดที่เรามีสส.เยอะ ซึ่งทางพรรคได้เชิญสส.ในแต่ละจังหวัดที่มีสส.เยอะมาคุยกัน พยายามจะหาทางออกที่ไม่กระทบกับทุกฝ่าย ถ้าจะส่งไปในนามพรรคต้องไม่ขัดแย้งในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางภาคเหนือ ภาคอีสานที่เป็นเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทย กำลังดำเนินการอยู่ เมื่อถามย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนเป็นการเลือกตั้งใหญ่ย่อมๆ จะมีการเดินสายหาเสียงหรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า
กำลังคุยกันอยู่ เพราะตอนนี้ “อุ๊งอิ๊ง” หรือ “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แข็งแรง ไม่เหมือนตอนที่หาเสียงใหญ่ที่ตอนนั้นน.ส.แพทองธาร ตั้งครรภ์อยู่ ตอนนี้พร้อมที่จะช่วยกันเดินทางไปหาเสียง และเราได้ดูตัวบทกฎหมายต่างๆว่าสมัยก่อนสส.ไม่สามารถลงไปช่วยหาเสียงท้องถิ่นได้ ตอนนี้ก็ปรับเปลี่ยนระเบียบไปเยอะ ถ้าสส.ลงไปช่วยหาเสียงได้ก็เริ่มจัดกลุ่ม เป็นเขตและสส.บัญชีรายชื่อ เพื่อจะแบ่งสายปราศรัยหาเสียงในวันและเวลาที่เหมาะสมต่อไป แต่ทั้งนี้ วันที่ประชุมสภาฯสส.ไม่สามารถเดินทางไปได้ ดังนั้น อาจจะเป็นในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือหลังเลิกงาน ตอนนี้กำลังประเมินกันอยู่ และได้คุยไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) บางท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญในการเลือกตั้งเขตจะมาช่วยดูในรายจังหวัดต่อไป
แต่ในสายตาคอการเมืองอย่าง “นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช” เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า พรรคก้าวไกล ฝันกลางวัน เพราะจะถูกยุบพรรคก่อนจะได้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเสียอีก จากคำสั่งประหารศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ยิ่งได้เห็นผลโพลของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ผู้ทรงอิทธิพล ทางการเมืองกับผู้น่าเห็นใจทางการเมือง” พบว่าประชาชน 42% เทคะแนนนิยมให้กับ “นายทักษิณ ชินวัตร ” อดีตนายกรัฐมนตรีนายใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทยชนะขาดลอย
ยิ่งนับตั้งแต่ “นายทักษิณ” คัมแบ็คการเมืองกลับคืนรัง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จะเห็นความเคลื่อนไหวของบรรดาแกนนำเสื้อแดง เริ่มกลับมาคึกคักยิ่งกว่าม้าพยศเช่นกัน อาทิ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ แกนนำกลุ่ม the red fc พรรคเพื่อไทย , จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ หรือ “นายวรชัย เหมะ” อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ต่างออกมาต้อนรับนายกขวัญใจมหาชนคนเสื้อแดงที่จะกลับปลุกกระแส “แดง” กิน “ส้ม” หนุนนายใหญ่พรรคเพื่อไทยให้กลับมาผงาดทางการเมืองอีกครั้ง
และหากเปรียบเทียบนโยบายเรือธง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาปักษ์ใต้ นั้นคือ “แลนด์บริดจ์” ระหว่าง พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย ต่างกันลิบลับ เพราะ พรรคก้าวไกล ค้านหัวชนฝาไม่เอาแลนด์บริดจ์ ขณะที่ พรรคเพื่อไทย หนุนสุดตัว ถึงกับดาหน้ากันออมาซัดกลับ “พรรคก้าวไกล” ว่าเป็นตัวถ่วงความเจริญที่ออกมาขวาง โครงการแลนด์บริดจ์ หนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการผลักดันระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ Southern Economic Corridor (SEC) จึงต้องวัดใจกันว่าหากมีการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือระดับชาติ คนไทยจะเลือกฝ่ายใดระหว่าง เสรีนิยมสุดโต่ง หรือ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ศึกครั้งนี้อย่ากระพริบตา