"พิพัฒน์" นำทีมสปส.คุย COMWEL พร้อมนำแนวคิดปรับพัฒนา คุณภาพประกันสังคมไทย

“พิพัฒน์” นำทีมสปส.คุย COMWEL พร้อมนำแนวคิดปรับพัฒนา คุณภาพประกันสังคมไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้ร่วมหารือกับ นายปาร์ค จองกิล ประธานสำนักงานสวัสดิการแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี หรือ COMWEL: Korea Workers, Compensation and Welfare Service ในประเด็นการคุ้มครองลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจาการทำงาน

นายพิพัฒน์ ระบุว่า การมาดูงานของK- COMWEL ในครั้งนี้ เพื่อปรึกษาหารือและศึกษาเพิ่มเติม และนำไปปรับใช้พัฒนากองทุนประกันสังคมของไทยให้มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีผู้ประกันตนในมาตรา 33 และ 39 รวม 14 ล้านคน และมาตรา 40 อีก 11 ล้านคน และยังมีแรงงานกลุ่มอื่นรวมแล้วทั้งสิ้น 40 ล้านคน ดังนั้น ผู้ใช้แรงงานในประเทศไทย ไม่ว่าจะคนไทยหรือแรงงานข้ามชาติต่างเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ

ขณะที่ K- COMWEL เป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่มีหน้าที่คล้ายกับ สำนักงานประกันสังคมของไทย โดยในส่วนการดูแลอุบัติเหตุจากการทำงานนั้น ประเทศเกาหลีมอบให้นายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งแตกต่างกับประเทศไทย ที่มีการเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนจากฝ่ายลูกจ้างร้อยละ 5 ฝ่ายนายจ้างร้อยละ 5 และฝ่ายรัฐบาลอีกร้อยละ 2.75 และเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็จะนำเงินกองทุนนี้ไปชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบ

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ เผยถึงข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับกองทุนประกันสังคม ซึ่งได้มีการหารือในที่ประชุมว่าจะต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติมขยายอายุกองทุน โดยเฉพาะการขยายอัตราการตัดเก็บเงินเข้ากองทุนจากเพดาน 15,000 บาท เป็น 17,500 บาท หรือ 20,000 บาท และการยืดอายุการเกษียนจากอายุ 55 ปี เป็น 60 ปี ซึ่งอยู่ในขั้นหารือ พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างการศึกษาขอให้รัฐจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนในอัตรา 5% เทียบเท่านายจ้าง และผู้ประกันตน โดยปัจจุบันรัฐบาลจ่ายเงินสมทบเพียงร้อยละ 2.75 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอาชีพที่ไม่ได้อยู่ในกองทุน จึงจำเป็นต้องขอแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม ให้บางอาชีพ เช่น แม่บ้าน แรงงานเกษตร แรงงานต่างชาติในทัน เข้าสู่ระบบประกันสังคมด้วย

สำหรับเรื่องแรงงานอิสระที่ K-COMWEL ได้ศึกษาอยู่ ในเดือน พ.ค.นี้ กระทรวงแรงงานจะประชุมพิจารณาเสถียรภาพของสำนักงานประกันสังคม โดยเชิญสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) พรรคการเมือง สมาคมหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจเอสเอ็มอี และ K-COMWEL เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน

ขณะที่ นาย Park Jongkil (ปาร์ค จองกิล) ประธาน K-COMWEL ได้กล่าวถึงเรื่องประกันอุบัติเหตุจากการทำงานของแรงงานว่า หากแรงงานเกิดอุบัติเหตุจากทำงานจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้เต็มจำนวน และช่วยฟื้นฟูให้แรงงานกลับมาทำงานได้

ทั้งนี้ นอกจากประกันอุบัติจากการทำงาน K-COMWEL ยังมีประกันการจ้างงานอีกด้วย โดยแรงงานที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงในหลายด้าน ยกตัวอย่าง ทำงานอยู่แล้วตกงาน จะได้รับเงิน จะมีเงินประกันว่างงาน แรงงานที่อยู่ระกว่างทำงานแล้วประสบอุบัติเหตุทำให้สูญเสียกำลังในการทำงาน มีประกันอุบัติเหตุจากการทำงานดูแล หรือแรงงานที่มีรายได้ค่อนข้างต่ำ จะจัดหาสวัสดิดารอื่นๆ เพื่อให้แรงงานมีชีวิตที่ดีขึ้น

โดยในการรับผิดชอบดูแลผู้ใช้แรงงานทั้งหมด K-COMWEL มีงบประมาณ 10 ล้านล้านวอน เป็นประกันอุบัติเหตุจากการทำงาน 7 ล้านล้านวอน มีพนักงานมากกว่า 1 หมื่นคน มีโรงพยาบาลในสังกัด 11 แห่ง และโรงพยาบาลภาคเอกชนมาร่วมดูแลรักษาผู้ป่วยอีกด้วย

โดยในระหว่างการหารือ นายพิพัฒน์ ได้ถามถึงความกังวลใจ ของ K-COMWEL เกี่ยวกับงบประมาณทึ่จะลดถอยหรือไม่ นาย Park Jongkil กล่าวว่า K-COMWEL ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องนี้ เนื่องจากทางด้าน K-COMWEL ได้บังคับให้นายจ้างเป็นคนจ่ายค่าประกันให้แรงงานจึงไม่มีความกังวลกับเรื่องนี้ และเพื่อป้องกันการล้มเหลวของนโยบายจากรายจ่ายที่ค่อนข้างมา ทาง K-COMWEL จะปรับอัตราเบี้ยประกันขึ้น

สำหรับประกันภาคบังคับของ K-COMWEL จะมีด้วยกัน 4 อย่าง โดย 3 อย่าง ยกเว้นประกันอุบัติเหตุจากการทำงาน ได้กำหนดให้นายจ้างและลูกจ้างรับผิดชอบคนละ50% ส่วนประกันอุบัติเหตุจากการทำงาน นายจ้างรับผิดชอบ 100% ส่วนกรณีผู้ใช้แรงงานในรูปแบบพิเศษ จะเป็นการร่วมกันจ่ายระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และ K-COMWEL ได้กำหนดค่าประกันแต่ละอาชีพเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3% ของรายได้ โดยค่าประกันของแรงงานใช้แรงงาน 100% นายจ้างจะรับผิดชอบ แรงงานภาคพิเศษ นายจ้างกับลูกจ้างคนละ 50% และแรงงานภาคสมัครใจ อาทิเจ้าของกิจการต้องรับผิดชอบดูแล 100%

อย่างไรก็ตาม ในตลาดการจ้างงาน เมื่อเกิดรูปแบบการใช้แรงงานแบบใหม่ๆการดูแลหรือคุ้มครองผู้ใช้แรงงาน ถือเป็นการบ้านที่สำคัญเช่นกัน ปัจจุบันได้มีการเสนอใช้แรงงานโดยไม่ทำสัญญาจ้าง เรียกว่า “ผู้ใช้แรงงานประเภทพิเศษ” ที่ติดปัญหา ค่าใช้จ่ายด้านประกัน และการแจ้งการจ้างงาน หากมีการเสนอใช้แรงงาน ปกตินายจ้างจะเป็นผู้แจ้ง แต่กรณีนี้ผู้ใช้แรงงานต้องแจ้งการจ้างงานเอง ส่วนระบบประกันพิเศษมีการปรับให้เข้ากับยุคสมัย เพราะมีการใช้แรงงานผ่านแพลตฟอร์ม แบ่งเป็น การขับรถส่งของรวดเร็ว เจ้าของรถบรรทุก การบริการขับรถยนต์แทน และแกร็บแท็กซี่

ส่วนประเด็นที่ทางกระทรวงแรงงานของประเทศไทยให้ความสนใจคือ การว่าจ้างงานผ่านแพลตฟอร์ม ขณะนี้ K-COMWEL กำลังพิจารณาใน 4 อาชีพ ได้แก่ ขับรถส่งของ เจ้าของรถบรรทุก บริการขับรถยนต์แทน และแกร็บแท็กซี่ ซึ่งในส่วนนี้ทาง K-COMWEL อยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด

นอกจากนี้ ประธาน K-COMWEL ยังตอบข้อซักถามของรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไทย ถึงกรณีการคุ้มครองแรงงานที่ไม่ทำสัญญาจ้าง โดยจะวิจัยและหารือเกี่ยวกับตลาดแรงงานประเภทนี้ทุกปี เพื่อดูว่าจะบัญญัติกลุ่มคนพวกนี้เข้าสู่แรงงานประเภทใด รวมถึงแรงงานไทยที่พำนักอาศัยอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งคุ้มครองแรงงานกลุ่มนี้ด้วย

ด้านนายบุญสงค์กล่าวว่า ประกันสังคมของไทยมีกองทุนเงินทดแทนที่จะดูแลค่ารักษาพยาบาล ทดแทนการขาดรายได้ การฟื้นฟูร่างกาย ไปจนถึงกรณีเสียชีวิต โดยเงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชยไม่ได้ต่างจากคอมเวลมากนัก จะต่างกันเพียงการประเมินการสูญเสียกรณีเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ที่เราได้หารือกับคอมเวล ได้พูดคุยกันเรื่องการดูแลแรงงานไทยในเกาหลี รวมถึงการดูแลแรงงานเกาหลีในประเทศไทยด้วย

กระทรวงแรงงาน, ประกันสังคม, พิพัฒน์, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง