จับตา สืบพยานก่อนพิพากษา ม.112 “ลูกเกด ชลธิชา” หากเจอโทษคุก-ไม่ได้ประกัน หลุด สส.ทันที

จับตา “ลูกเกด ชลธิชา” คดี 112 หากเจอโทษคุก-ไม่ได้ประกัน หลุด สส.ทันที

ส.ส.ที่มีคดีติดตัวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ต้องสังกัดพรรคก้าวไกลเท่านั้นเค้ายืนหนึ่งเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะที่เข้าไปนั่งอยู่ในสภา ส่วนใหญ่ก็ได้ดิบได้ดีจากการเป็นแกนนำม็อบทั้งนั้น

ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์กำหนดการของแกนนำและแนวร่วม 3 นิ้ว ที่จ่อคิวทยอยขึ้นศาล โดยหนึ่งในนั้นมีนัดไต่สวน “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ในคดี ม.112 จากกรณีโพสต์จดหมายราษฎรสาสน์ ถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อปี 63 ซึ่งคดีนี้นายนพดล พรหมภาสิต หรือ รอยตุ๊ เป็นผู้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ดำเนินการเอาผิดกับ สส.พรรคก้าวไกลรายนี้

สำหรับลูกเกด ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้เป็นเจ้าของสถิติ สส.ที่มีคดีมากที่สุดในพรรคก้าวไกล ถูกดำเนินคดีครั้งแรก จากการร่วมชุมนุมรำลึกหนึ่งปีการรัฐประหาร เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 58 ต่อมาในเดือนมิถุนายน ได้ทำอารยขัดขืน ไม่เข้ารายงานตัวกับตำรวจ นอกจากนั้นก็ยังไปร่วมเดินขบวนประท้วงการรัฐประหาร จนถูกดำเนินคดีในความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และถูกฝากขังในเรือนจำเป็นเวลา 12 วัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังได้รับการปล่อยตัว ลูกเกดยังคงทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และได้ร่วมกับเพื่อนตั้งองค์กรรณรงค์ ชื่อ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือ DRG ในช่วงการชุมนุมของราษฎร ลูกเกดถูกดำเนินคดีมาตรา 112 สองคดี หนึ่งในนั้นคือกรณีโพสต์เฟซบุ๊ก ในช่วงที่มีกิจกรรม “ราษฎรสาส์น” ส่งจดหมายถึงพระมหากษัตริย์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 63 โดยอัยการบรรยายฟ้องว่า เนื้อหาในจดหมาย ทำให้ประชาชนทั่วไปที่พบเห็นภาพ และข้อความเข้าใจได้ว่า พระมหากษัตริย์เสด็จไปอยู่ต่างประเทศ ไม่ดูแลประชาชน เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทั้งยังทําให้เข้าใจว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ ใช้ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกพ้อง กระทําการรัฐประหาร แล้วสืบทอดอํานาจ คดีนี้ฟ้องต่อศาลแล้ว ศาลอาญานัดสืบพยานในเดือนมิถุนายน และสิงหาคม ปี 66 และในเดือนมีนาคม ปี 67

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่คดีจะเดินทางมาจนถึงวันนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยรายงานไว้ว่า คดีนี้เดิมกำหนดนัดสืบพยานไว้ช่วงเดือนมีนาคม ปี 67 ต่อมาศาลได้ส่งหมายแจ้งกำหนดวันนัดใหม่เองมา แต่วันที่นัดทนายความติดว่าความในคดีอื่นแล้ว จึงได้แจ้งขอเลื่อนคดีออกไป แต่ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี เห็นว่าพยานโจทก์มาศาล และจำเลยไม่ได้คัดค้านไว้ก่อน ให้สืบพยานโดยไม่มีทนายไปก่อน

 

จากนั้นนางสาวลูกเกด ชลธิชา ได้แจ้งขอพบผู้บริหารศาลอาญา หลังศาลเจ้าของสำนวนระบุว่าได้ปรึกษากับผู้บริหารก่อนแล้ว แต่ผู้บริหารศาลอาญาปฏิเสธจะพบ ลูกเกดจึงแถลงขอเปลี่ยนองค์คณะผู้พิพากษา ศาลเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย จึงอนุญาตให้จำเลยเขียนคำร้องเปลี่ยนองค์คณะ อย่างไรก็ตาม ต่อมาอธิบดีศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง ขอให้เปลี่ยนองค์คณะผู้พิพากษา ศาลเจ้าของสำนวนจึงให้เริ่มสืบพยานโจทก์ โดยไม่มีทนายความเข้าร่วม ด้านลูกเกด แถลงปฏิเสธกระบวนการพิจารณาคดีในวันดังกล่าวทั้งหมด และจะไม่เซ็นเอกสารใดๆ

ต่อมา ลูกเกด ชลธิชา โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความไม่พอใจว่า เมื่อใดที่กระบวนการยุติธรรมพัง ประเทศไทยจะพังพินาศยิ่งกว่า ผู้พิพากษายืนยันไม่ให้เลื่อนสืบพยานคดี 112 ที่ศาลอาญาเป็นคนมาเปลี่ยนวันนัดสืบพยานให้เร็วขึ้นเอง แม้ทนายความและจำเลยจะค้านไปแล้วว่า ไม่สะดวกในการสืบพยานช่วงเวลาดังกล่าว มิหนำซ้ำเกดยังได้ขอใช้สิทธิ์พบผู้บริหารศาล แต่ถูกปฏิเสธ เกดยื่นคำร้องขอเปลี่ยนองค์คณะผู้พิพากษา ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน และตอนนี้ศาลได้เริ่มสืบพยานฝั่งโจทก์ โดยที่ไม่มีทนายความของจำเลยอยู่ด้วย โดยศาลได้แนะนำว่า จะอนุญาตให้จำเลยถามค้านพยานโจทก์ได้เอง แม้ทนายความจำเลย จะไม่ได้อยู่ในห้องพิจารณาคดี

สิ่งที่เกิดขึ้น คือความบัดซบ และพังพินาศของกระบวนการยุติธรรมไทย ในวันที่เกดตัดสินใจโพสต์จดหมาย เกดทำด้วยความกล้าหาญ และหวังดีกับสถาบันกษัตริย์ และเกดยินดีอย่างยิ่ง ที่จะสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์สิ่งที่ตัวเองเชื่อ แต่สิ่งที่เกดและทนายความเจอ มันเกินกว่าที่จะยอมรับได้ ดังนั้น เกดขอปฏิเสธกระบวนการทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว เพื่อยืนยันว่า จำเลยทุกคน ในทุกๆ คดี ควรได้ความเป็นธรรมในการสู้คดี หากศาลจะสืบพยานโจทก์ โดยไม่มีทนายความจำเลยอยู่ด้วย ก็ขอให้รู้ตนเองด้วยว่า คุณคือส่วนหนึ่งของการทำลายกระบวนการยุติธรรม

ก็ว่ากันไป ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ที่แน่ๆ คือ หากศาลมีคำพิพากษาแล้ว เห็นว่าลูกเกด มีความผิด พร้อมให้ลงโทษจำคุก โดยไม่รอลงอาญา และไม่อนุญาตให้ประกันตัว จะถือว่าต้องคําพิพากษาให้จําคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล ซึ่งจะขาดคุณสมบัติการเป็น สส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(6) โดยทันที ตกสวรรค์ไปโดยปริยาย

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขุนเขา ‘ฮว่าซาน’ ่ของจีนสวยสะกดยามห่มหิมะขาว
ทหารพรานจัดกำลังตรวจค้นเก็บกู้บ่วงดักสัตว์ป่า
ผลักดัน ! แรงงานต่างด้าวมากกว่า 100 ราย ออกนอกประเทศ หวั่นเกรงมาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่
เมืองคอนน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ หากผลไม่หยุดตกคืนนี้ตัวเมืองอ่วมอรทัยแน่นอน-ในเบื้องต้นนายอำเภอ,นายกเล็กฯจับมือศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมงสมาคมสื่อมวลชนและชมรมรถจิ๊ปลุยช่วยชาวบ้านแล้ว-เรียกร้องเจ้าพนักงานที่ดินเด้งตรวจสอบนายทุนถมลำคลองปิดกั้นทางน้ำว่าออกโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
โซเชียลถามกลับ “พรรคส้ม” รู้ยังมีทหารไว้ทำไม? หลังเกิดเหตุการณ์ "กลุ่มว้าแดงและทหารไทย"
ผบ.สอ.รฝ.ประดับเครื่องหมายเลื่อนยศ นักรบต่อสู้อากาศยาน 46 นาย
‘สามารถ’ คอตกศาลไม่ให้ประกัน เตรียมส่งเข้าเรือนจำ ส่วน ‘แม่’ วางเงิน 5 แสนบาท ได้รับปล่อยตัว
"กองทัพภาคที่ 3" แถลงข่าวแจงพื้นที่ "กองกำลังว้าแดง" ตั้งฐานปฏิบัติการลุกล้ำไทย ยังไม่มีการสำรวจ หรือปักปันเขตแดน
ตึงเครียด! “ว้าแดง” บุกประชิดชายแดนไทย “บิ๊กอ้วน” พูดแล้ว รบ-ไม่รบ
ชาวบ้านเดือดร้อนหนักน้ำท่วมเดือดร้อนแสนสาหัส - หลังนายทุนออกโฉนดที่ดินถมลำคลอง"ห้วยพาน" ปิดกั้นทางน้ำสิ้นเชิง นายกเล็กฯ เบื้องต้นระดมกำลังช่วยเหลือ ที่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าออกจะโดดที่ดินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แต่กลับ ล่าช้า อึดเหมือนเรือเกลือ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น