สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งตม.ตรวจเข้มชาวต่างชาติ ก่อเหตุอาชญากรรมทุกพื้นที่ สั่งรายผลทุกเดือน Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
วันนี้ (18 มี.ค. 67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือคำสั่งเป็นบันทึกข้อความส่วนราชการตำรวจ ลงวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เรื่องกำชับการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย ถึง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ใจความระบุว่า…
ด้วยปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ (social media) และตามสื่อมวลชนต่างๆ ว่ามีคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และพำนักอยู่ในประเทศไทย มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้เข้ามาตามที่กฎหมายกำหนด มีพฤติการณ์แอบแฝงที่จะอยู่ในประเทศด้วยเหตุผลอื่น ซึ่งไม่เป็นไปตามเหตุแห่งความจำเป็นที่คนต่างชาตินั้นได้รับอนุญาต มีการกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือหลีกเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายไทย อีกทั้งประเทศไทยไม่ได้รับประโยชน์จากการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเหล่านั้นแต่อย่างใด ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงของประเทศไทย
เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวมากระทำผิดกฎหมาย หรือก่ออาชญากรรม หรือมีพฤติการณ์เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงกำชับการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย ดังนี้
1.เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบคัดกรองคนต่างชาติที่เดินทางผ่านเข้า – ออกราชอาณาจักรตลอดจนการพิจารณาให้คนต่างชาติได้รับอนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว การตรวจลงตราและการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา โดยให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบและคำสั่งที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
2.ให้สืบสวนจับกุมการกระทำผิดกฎหมายทุกฐานความผิดตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนต่างชาติให้ครบถ้วน ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว กฎหมายว่าด้วยสถานบริการ การประกอบกิจการหรือธุรกิจผิดกฎหมาย การทำนิติกรรมอำพราง (นอมินี) โดยให้คนไทยถือครองหุ้นบริษัท หรือครอบครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์แทนคนต่างชาติ เพื่อประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมาย ฯลฯ ตลอดจนตรวจสอบพฤติกรรมชาวต่างชาติว่า มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ อย่างไร โดยให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการในการตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด
3.กรณีตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวมีพฤติการณ์ที่อยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้เป็นไปตามเหตุแห่งความจำเป็น หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หรือมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายในลักษณะเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร หรือมีพฤติการณ์อื่นใดที่สมควรเพิกถอนการอนุญาต ให้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตาม มาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
4.ทั้งนี้ ให้กำชับหน่วยงานในสังกัดจัดทำแผนการปฏิบัติ และกำหนดวงรอบในการออกตรวจสืบสวนจับกุมอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมทุกพื้นที่ตามห้วงเวลาที่เหมาะสมอย่างเป็นรูปธรรม และเมื่อมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ให้สืบสวนขยายผลการจับกุมทุกราย และรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบ ภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน เริ่มรายงานผลการปฏิบัติครั้งแรกภายในวันที่ 10 เมษายน 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น